วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554

♥ ทำไมหอแห่งเมืองปิซาจึงเอียง ?


        ♠ • เมื่อเริ่มสร้างในปีค.ศ. 1773 แต่มีการวางรากฐานไม่มั่นคง จึงเลิกสร้างไป ต่อมาอีก 100 ปีให้หลัง มีการสร้างต่อจนเสร็จโดยใช้ฐานเดิม เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงพบว่าหอเอียงไปทางทิศใต้อย่างเห็นได้ชัด การวัดความเอียงของหออย่างเป็นประจำ เริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1911 และเนื่องจากหอเคลื่อนตัว 1.2 มิลลิเมตรในแต่ละปี จึงหมายความว่า ส่วนยอดของหอเอนจะเคลื่อนออกจากจุดศูนย์กลาง 5.3 เมตร เร็วๆนี้วิศวกรพยายามที่จะทำให้ฐานของทรงตัวอยู่ได้ เพื่อให้ส่วนยอดเอนกลับมา แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม
cd.หนังสือ"คำถามน่ารู้"

☺ ในร่างกายคนเรามีธาตุเหล็กอยู่มากเท่าไหร่ ?

▬  ในร่างกายคนเรามีธาตุเหล็กจำนวนมากพอที่จะนำมาทำตะปูขนาด 3 นิ้วได้หนึ่งตัว แต่ยังไม่หมดแค่นั้น ร่างกานของคนเรายังมีน้ำในปริมาตรพอจะเติมในถังขนาด 10 แกลลอนได้เต็ม และกำมะถันมากพอที่จะฆ่าตัวหมัดที่อยู่ในตัวสุนัขทั่วๆไปได้ มีโพแทสเซียมมากพอที่จะจุดปืนใหญ่ของเล่นให้ติด มีไขมันมากพอที่จะทำสบู่ได้ 7 ก้อน และมีฟอสฟอรัสพอจะทำหัวไม้ขีด 2200 ก้าน รวมทั้งมีคาร์บอนพอทำดินสอได้ 900 แท่ง

cd.หนังสือ"คำถามน่ารู้"

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

-โรงแรมจีนเปิดตัวห้องพักสไตล์คุกขังนักโทษ-

-0- น่าสนใจไหมล๊ ?

ทำแบบประวัติอาชญากรรมได้เลย !

ห้องพักพยาบาล (น่ามีที่โรงเรียนบ้าง555)


ถ้าบังเอิ๊ญ..บังเอิญ! คุณมีโอกาสได้ไปพักที่โรงแรมเปิดใหม่แห่งหนึ่งในเมืองเหอเฟ่ย ของประเทศจีน แล้วทางพนักงานบอกกับคุณว่า "เชิญพักได้ที่ห้องหมายเลข **** ค่ะ" ก็ไม่ต้องตกอกตกใจหรือนึกเข้าใจผิดว่ามาพักในคุกแต่อย่างใด เพราะโรงแรมที่ว่านี้มีธีมห้องที่ไม่เหมือนโรงแรมใด ๆ ในจีน แถมยังอาจจะบอกได้เลยว่าเป็นโรงแรมแห่งแรกในจีนเลยทีเดียว ที่มีธีมของห้องพักแนว ๆ ให้บริการลูกแบบนี้

          ไอเดียที่ไม่เหมือนใครในจีนแบบนี้ เกิดขึ้นเมื่อทางเจ้าของโรงแรมได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมากมาย และก็ได้ไปพบห้องพักในลักษณะคล้าย ๆ กันนี้ ในโรงแรมตามประเทศฝั่งตะวันตกงานนี้เมื่อกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอน ทางเจ้าของเลยปิ้งไอเดียที่ว่า ในจีนเองก็ยังไม่เคยมีโรงแรมไหนทำห้องพักที่ไม่ค่อยมีใครคาดคิดแบบนี้มาก่อน ว่าแล้วก็ขอทำเป็นเจ้าแรกในจีนเลยก็แล้วกัน

          ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสมจริงสมจัง ทางเจ้าของโรงแรมเลยจัดการดีไซน์ธีมห้องได้เหมือนคุกขังนักโทษจริง ๆ ตั้งแต่ส่วนของประตูที่เป็นลูกกรงสีดำ ตามมาด้วยลูกเล่นบนกำแพงอย่างที่วัดส่วนสูงที่มักจะเห็นกันตามข่าวหรือภาพยนตร์ที่จะให้นักโทษมายืนเพื่อถ่ายภาพเก็บเป็นหลักฐาน กุญแจมือจริง ๆ ก็มีให้ใส่ แล้วก็มีเตียงเล็ก ๆ ธรรมดา สำหรับลูกค้าที่เข้าพักคนเดียว แต่ถ้ามาสองคน ก็จะมีเตียง 2 ชั้น แทนเตียงใหญ่ ๆ ที่เรา ๆ เคยเห็นกันตามห้องพักทั่วไป

          นอกจากนั้นแล้ว หากลูกค้าคนไหนที่ไม่ชอบธีมห้องขังนักโทษ หรือเป็นกังวล คิดมาก ว่าเป็นห้องพักที่ไม่เหมาะสม ทางโรงแรมยังมีห้องในธีมอื่น ๆ ให้เลือกตามใจชอบอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้องสำหรับคู่รักที่มีบริการเตียงน้ำแบบส่วนตั๊ว..ส่วนตัวพร้อม หรือไม่ก็ห้องพยาบาลที่มีชุดคุณหมอรอพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้อย่างเสร็จสรรพ และหากอยากจะเอาใจลูกเด็กเล็กแดง ทางโรงแรมก็มีห้องแบบสดใส ๆ มีตัวการ์ตูนอยู่เต็มห้องไว้คอยบริการด้วยเหมือนกัน

        
  ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ ทางโรงแรมเขาคิดราคาเป็นรายวัน โดยสนนราคาอยู่ที่วันละ 128 หยวน หรือประมาณ 640 บาท ส่วนจะพักกันนานขนาดไหน ก็ตามแต่ที่คุณลูกค้าจะต้องการ..
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sinonet.org, news.cnwest.com, news.cnwest.com

 

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

DJ. ?~? คืออะไรกันน่ะ -0-

     ดีเจ (DJ ย่อมาจาก Disc jockey) หมายถึงผู้จัดรายการเพลงประกอบความรู้เกี่ยวกับเพลงหรือเรื่องอื่นๆ ซึ่งอยู่ในความสนใจของผู้ฟัง ในสถานที่ฟังเพลง ในที่นี้มี 2 ความหมายคือ ดีเจที่จัดรายการเพื่อออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียง และดีเจที่เปิดเพลงตามไนต์คลับ หรือตามงานบันเทิงต่าง ๆ โดยในขณะทำหน้าที่ดีเจ อาจมีการเล่นแผ่นหรือปรับเสียงในลักษณะต่าง ๆ เพื่อดัดแปลงให้ได้เสียงที่แปลกใหม่ไปจากเดิม
     ดีเจที่มีความหมายถึงนักจัดรายการวิทยุ รูปแบบการจัดรายการอาจเป็นรายการที่มีกำหนดเวลาแน่นอน หรือเป็นรายการที่ให้บริการตลอดวัน เช่น รายการกรีนเวฟ หรือรายการอยู่เป็นเพื่อนคุยกับนักศึกษาที่ดูหนังสือดึกๆ หรือรายการโชว์ดึก โดยมีหัวข้อคุยเป็นประเด็นเรื่องราวตามกระแสเหตุการณ์บ้านเมืองและโลกแทรกไว้ในรายการ หรือรายการเพื่อสุขภาพ รายการเพื่อผู้บริโภค รายการเพื่อการศึกษา การทบทวนข้อสอบของนักเรียนเพื่อเตรียม สอบเอ็นทรานซ์ การตอบปัญหาสุขภาพจิตสำหรับผู้ฟังที่มีปัญหาคับข้องใจ หรืออาจเป็นรายการสายด่วน เพื่อช่วยเหลือความเดือดร้อน โดยนักจัดรายการวิทยุจะเปิดเพลง สลับการให้ความรู้หรือการตอบปัญหา หรือสนทนากับผู้ฟังตามช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อมิให้เกิดความเบื่อหน่ายแก่ผู้ฟังทั่วไป

ฟิตเกรด+กวดวิชา ??

     - สมุดจดการบ้าน ย้ำว่าเป็นสมุดจดการบ้าน ไม่ใช่สมุดโน้ตที่ใช้เรียนในแต่ละวิชา อาจสงสัยว่าพกทำไม แค่นี้แบกกระเป๋าหลังก็จะหักอยู่แล้ว!! ซึ่งจะขอแนะนำว่าสมุดจดการบ้านใช้เป็นเล่มเล็กๆ ก็พอ ประโยชน์ของมันก็คือไว้จดการบ้านหรืองานต่างๆ ที่คุณครูสั่งมาในแต่ละวิชา โดยเขียนแยกไว้เป็นแต่ละวัน ซึ่งการแยกสมุดจดการบ้านออกมาจะทำให้เพื่อนๆ ไม่ลืมทำการบ้านหรืองานสำคัญๆ นั่นเอง เพราะเชื่อว่ามีเพื่อนๆ หลายคนที่จดการบ้านไว้ในสมุดที่ใช้เรียน (ซึ่งปกติสมุดเรียนก็ไม่เคยเปิด) เพราะฉะนั้น 99% เพื่อนๆ ก็จะลืมสนิท แต่ถ้ามีสมุดจดการบ้านก็จะสะดวก เปิดครั้งเดียวรู้ทุกอย่างว่าวันนี้มีการบ้านอะไร ส่งวันไหน ตัวอย่างวิธีการจด เช่น
เด็กดีดอทคอม :: อุปกรณ์ช่วยเรียน อยากเซียนต้องพก

- ปากกาสีหรือปากกาไฮไลท์ มีไว้สำหรับขีดหรือไฮไลท์ในส่วนที่สำคัญๆ จะได้สบายขึ้นเมื่อกลับมาอ่านรอบ2 เพราะจะทำให้เพื่อนๆ รู้ว่า “อ๋อ..ตรงนี้นะที่สำคัญ” สำหรับปากกาสีก็ไว้สำหรับจดเพิ่มในส่วนที่ไม่มีในเนื้อหาซึ่งก็คือเป็นเนื้อหาที่หลุดออกมาจากปากคุณครู ซึ่งสิ่งสำคัญที่อยากบอกก็คือ อย่าใช้เยอะเกิน พกแค่อย่างละ 2-3 สีก็พอ เพราะถ้าใช้หลายสี แทนที่จะรู้เรื่องกลับงงกว่าเดิมอีก นึกว่าสายรุ้งพลาดใส่สมุด-*- สำหรับสีก็เลือกสีที่ตัวเองชอบได้เลย จะได้มีกำลังใจและสนุกไปกับการเรียน (สีไฮไลท์ที่ชอบใช้ คือ สีเหลืองและชมพูค่ะ เพราะเป็นสีที่สว่างๆ สบายตา)

- ดินสอ เพื่อนหลายๆคนก็พกไว้อยู่แล้ว เพราะสะดวกสบายกว่าใช้ปากกา แต่หลายๆ คน พกปากกาด้ามเดียวก็หากินทั้งชีวิตได้ ส่วนอย่างอื่นถ้าอยากได้ก็ยืมเพื่อนเอา!! (มีจริงๆ นะ ^^) ซึ่งดินสอเนี่ยถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากๆ เพราะอย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าสะดวกกว่า สามารถลบได้เวลาเขียนผิด(ใช้ยางลบก็ง่ายกว่าใช้ลิควิดเป็นไหนๆ) อีกอย่างไม่ต้องกลัวหมึกเละหรือเขียนไม่ออก ชวนให้อารมณ์เสีย ซึ่งยังมีความรู้สึกด้วยว่าใช้ดินสอแล้วเขียนเร็วกว่าปากกา ไม่รู้เป็นเพราะอะไร?? ดังนั้นดินสอถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่พกติดตัวเป็นประจำ ไปเที่ยวยังพกเลยค่ะ ฮ่าๆ

- เครื่องบันทึกเสียงหรือ mp3 เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันเยอะขึ้น  แต่ถ้าใครไม่มีก็ไม่ต้องไปรบเร้าพ่อแม่จะเอาให้ได้นะคะ ใช้บันทึกเสียงในมือถือก็ได้ (ดีกว่าเอามานั่งเล่นเกมเฉยๆ) สำหรับอุปกรณ์นี้มีไว้ให้เพื่อนๆ บันทึกเสียงเวลานั่งเรียน เพราะสมาธิของคนเราอยู่ได้ไม่ถึง 30 นาทีหรอกค่ะ ดังนั้นก็จะมีบางช่วงที่สมาธิหลุด สติแตกฯลฯ เห็นหนุ่มห้องข้างๆ เดินผ่าน ก็ลืมคุณครูไปเลย ยังงี้มีหวังคุณครูได้ลืมเกรดเพื่อนๆ ด้วย ดังนั้นกันพลาด เลยแนะนำให้เพื่อนๆ บันทึกเสียงไว้ แต่ไม่ใช่ว่าอัดไว้แต่ในห้องไม่นั่งฟังนะ กลับบ้านไปก็ไปนั่งฟังกันอีกรอบ สอบออกมาคะแนนเซียนชัดๆ เห็นมั้ยว่าอุปกรณ์นี้มีประโยชน์แค่ไหน สติหลุด แต่เนื้อหาไม่หลุดนะจ๊ะ

 -โพสอิท หน้าที่ของโพสอิทที่สำคัญก็คือไว้ใช้จดกันลืม อาจจะแปะไว้ตามโต๊ะ ตามตู้เย็น แต่เราสามารถเอามาใช้เป็นอุปกรณ์การเรียนด้วยนะ ขนาดโพสอิทที่เลือกใช้ก็จะไม่ใหญ่มาก สีไม่จัดจ้าน ไว้ใช้ในกรณีที่มีชีทหรือหนังสือเรียน จะได้แปะได้สะดวก โดยจะเอามาไว้ใช้จดเนื้อหาที่คุณครูบอกเพิ่มเติม เพราะถ้าจดแทรกตามบรรทัด แน่นอนว่าที่อาจจะไม่พอ พอไม่พอก็ไปจดหัวกระดาษบ้างท้ายกระดาษบ้าง สุดท้ายก็ลืมหรืออ่านไม่รู้เรื่อง ซึ่งนอกจากโพสอิทจะไม่ทำให้กระดาษเลอะเทอะ รกไปด้วยตัวหนังสือ ไม่น่าอ่านแล้ว ยังดูเป็นหมวดหมู่และจดเนื้อหาได้ไม่จำกัดด้วย เรียบร้อยแถมมีประโยชน์ขนาดนี้ หาซื้อมาใช้กันเถอะ

- กิ๊บติดผม อาจจะดูไม่เกี่ยว แต่สำหรับเพื่อนๆผู้หญิงในสมัยนี้ เพราะเพื่อนๆมักจะปล่อยผมด้านหน้าไว้เก๋ๆ แต่เวลานั่งเรียนก็จะรำคาญ คอยจับผมตลอดเวลา ซึ่งการนั่งจับผมเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เพื่อนๆเสียสมาธิในการเรียน(อย่างมาก) ผมตกลงมาทีก็จับผมที ความรู้เลยไม่เข้าสมองเพราะมัวแต่จับผม-*- แต่ความสวยมันห้ามไม่ได้ ก็เข้าใจ^^ จะให้รวบตึงมาเรียนก็ไม่ไหว ดังนั้นพกกิ๊บติดผมมาติดในชั่วโมงเรียนก็เวิร์คแล้ว แค่นี้สมาธิเพื่อนๆ ก็จะอยู่ครบ ตั้งหน้าตั้งตาและตั้งใจเรียนเก็บเกรดสี่กลับบ้านดีกว่า


เด็กดีดอทคอม :: อุปกรณ์ช่วยเรียน อยากเซียนต้องพก

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าพกแต่ของ แต่ตัวไม่เข้าเรียน มันก็ไม่ช่วยอะไรนะคะ ดังนั้นอุปกรณ์เหล่านี้ก็เป็นเพียงอุปกรณ์เสริม แต่อุปกรณ์ที่แท้จริงคือตัวและความตั้งใจของเพื่อนๆ ค่ะ สู้ๆ นะคะ ^^




วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สิวบอกอารมณ์และโรคร้ายได้นะ

                       ตำแหน่งสิว บนผิวหน้า บ่งบอกอารมณ์และโรคร้ายได้อย่างคาดไม่ถึง !


สีหน้าและแววตา ใช้สื่อถึงความรู้สึกและอารมณ์ต่างๆ ได้ แต่ผิวหน้าของคนเราก็สามารถสื่อถึงสุขภาพภายในร่างกายได้เหมือนกัน  
        วิธีการสังเกตถึงสุขภาพภายในร่างกายของเราหรือของคนใกล้ตัวเรานั้น  ด้วยศาสตร์ใหม่จากการวิเคราะห์สภาพผิว Face Mapping กระบวนการพิสูจน์และวิเคราะห์สภาพผิวด้วยศาสตร์ตะวันออก ซึ่งเป็นหนึ่งในปรัชญาความคิดเบื้องต้นที่ว่า "ผิวหน้าสามารถบ่งบอกได้ถึงสุขภาพภายในร่างกายที่มีผลกระทบต่อผิวพรรณ" ทำให้เข้าใจได้ถึงสาเหตุการเกิดปัญหาสุขภาพผิว

          ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพผิว จากศูนย์สุขภาพผิวเลียวนาร์ด เดรก ได้นำเสนอแนวทางการป้องกันโดยมีหลักในการวิเคราะห์สภาพผิวแบบ Face Mapping นั้นจะเป็นการวิเคราะห์สภาพผิวที่ละเอียดกว่าการวิเคราะห์ผิวโดยทั่วไป  โดยแบ่งส่วนใบหน้า  ลำคอ และแผ่นอกออกเป็น 4 โซน

          โซนที่ 1 และโซนที่ 3 ถ้ามีปัญหาสิวบริเวณนี้ คุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ดังนั้นอาจต้องดื่มน้ำมากขึ้นหรือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

         
โซนที่ 2  สิวบริเวณหว่างคิ้ว เกี่ยวกับตับ อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส
(ดื่มนมไม่ได้) การทานอาหารรสจัดหรือทานอาหารดึกเกินไป 

         
โซนที่ 4 และโซนที่ 10 ผิวบริเวณหูนี้เป็นผลพวงของไต หากรู้สึกร้อนที่หู คุณอาจต้องลดการรับประทานเนื้อสัตว์ลง

         
โซนที่ 5 และโซนที่ 9
  บริเวณแก้มทั้งสองด้าน โดยแก้มส่วนบนจะเกี่ยวข้องกับไซนัสและปอด ส่วนแก้มส่วนล่าง เหงือกและฟัน สาเหตุอาจเป็นเพราะสูบบุหรี่จัด หรือแพ้ควันบุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็นๆ หายๆ ที่แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือโทรศัพท์มือถือไม่สะอาด

         
โซนที่ 6 และโซนที่ 8
ตำแหน่งรอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับไต และปัญหาภูมิแพ้ สาเหตุมาจากเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ อาจไม่เหมาะสม หรือใส่แว่นตาที่เสียดสีมาก รอยคล้ำอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคือง อาจมาจากการเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร

         
 โซนที่ 7
  ผิวบริเวณจมูกและริมฝีปาก แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หากมีสิวบริเวณนี้อาจหมายถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ การมีประจำเดือน การรับประทานยาคุมกำเนิด

         
โซนที่ 11 และโซนที่ 13
หากผิวบริเวณนี้แตกระแหง สามารถบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาของฟันกราม หรือปัญหาเกี่ยวกับฟัน

         
โซนที่ 12 สิวเรื่อๆ บริเวณคางนี้ สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องลำไส้เล็ก ที่มีผลจากการรับประทานของเผ็ด


         
โซนสุดท้ายโซนที่ 14 หากคุณมีสิวบริเวณนี้แล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณกำลังเครียดสูง

          นี่เป็นเพียงแค่รายละเอียดเพียงเล็กน้อยของการวิเคราะห์สภาพผิวหน้าที่ทำให้รู้ได้ถึงสุขภาพภายในร่างกาย ซึ่งจะทำให้เราทราบได้ว่าจะต้องดูแลบำรุงทั้งสุขภาพภายในและภายนอกอย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่นี้คุณก็จะมีทั้งสีหน้า แววตาและผิวพรรณที่เป็นสุขได้

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

24 เรื่องแปลกๆจากทั่วโลก

 
 
 



1.นักถ้ำมองโครตสกปรก


เป็น ชาวอเมริกันแต่ไม่ระบุชื่อเพราะญาติขอร้อง อายุ 37 ปี อยู่เมืองเลล์ เกลด รัฐฟลอริดา อาชีพเพาะปลูก เมื่อเวลาว่างชายคนนี้จะมีอาชีพพิเศษคือชอบแอบมองสาวทำธุระโดยการตะเวณดูตาม สุขาทั่วเมือง และยิ่งมองยิ่งติดใจจงตัดสินใจแช่ในถังส้วมหลุมเพื่อมองเห็นสาวทำธุระจะๆ ตา(ส้วมเมืองนอกเขาเป็นแบบนี้) เผลิญสาวคนหนึ่งเขาทำธุระปล่อยทุ่นส่วนตัวเสร็จ แล้วบังเอิญไปเห็นอะไรไม่รู้มีตาสองตาของคนจึงแจ้งตำรวจ แล้วเจ้าถ้ำมองคนนั้นก็ถูกตำรวจเรียกรถเครนพร้อมตะขอเกี่ยวนักถ้ำมองออกจาก หลุม จากนั้นก็หย่อนลงบึงน้ำเสียเลย

2.แล้วใครจะมาแทน
นาง ซินเธีย บรวน ชาวออสซี่ ได้ปลดเกษียณอายุงาน 62 ปีลง ที่โรงงานผลิตยาแห่งหนึ่ง จากสถิตทำงาน 34 ปีเต็ม โดยงานที่เธอทำสุดภาคภูมิใจคือ เธอสูดดมกลิ่นตด หรือก้นผู้ป่วยโรคริดสีดวงถวาร เนื่องจากบริษัทแห่งนี้ผลิดน้ำยาดับกลิ่นก้นและส่งใส่ว่าผลิตภัณฑ์เขาใช้ได้ กับผู้ป่วยหรือไม่

3. สถิตนี้ใครกล้าทำลาย
โด แนลด์ คิง วัย 38 ปี ชาวเมืองเคพทาวน์ ประเทศเซาธ์แอฟริกา เขามีสถิดอันดับโลกโครตภูมิใจคือ เขาเป็นสามีหรือผัวของสัตว์ตัวเมียไม่น้อยกว่า 600 ตัว โดยเมียสัตว์ของโดแนลด์มีทั้ง แพะ แกะ วัว ควาย ม้า หมา แมว แรด นกกระจอกเทศ ลามา ไฮยีน่า กวาง เต่าตะนุ ลิงชิมแปมซี กอริลล่า ตัวกินมด (โฮ้กล้ามั่วขนาดนี้เลยเรอะ)

4. อยากดัง
เลิฟ วีนี่ ดาราโนเนม ชาวลอนดอน ทำยังไงก็ไม่ดังเสียที วันหนึ่งเธอเข้าส้วมก็เกิดไอเดียสุดเจ๋ง เธอใช้เงินก้อนสุดท้ายทำอัมบั้มซีดี.ทันที โดยการอัดเสียงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องน้ำขณะที่ตนเองเข้าใช้ ไม่ว่าเสียงแปรงฟัน เสียงขุยเสลด เสียงฉี่ ตด หาวเรอ เสียงอึตกกระทบกับน้ำ ผลคืออัลบัมเธอขายดีมากกว่า30000 แผ่น และราคาแผ่นพอๆ กับแผ่นป๊อบฮิตเลยทีเดียว (ดังสมใจเลย)

5. ตายสุดซวยที่สุดในโลก
อัน นี้เคยออกข่าวแล้วนะ บีทรีส วิลเลียมสัน อายุ 77 ปี พลเมืองอาวุโสชาวอังกฤษ วันหนึ่งเธอออกไปทำสวนหลังบ้าน ขณะที่เธอทำงานเพลินขณะนั้นก็มีของเสียก้อนหนึ่งตกลงมาจากห้องน้ำเครื่องบิน พอดีช่วงนี้อากาศหนาวจัดทำให้ของเสีย(ขี้) จับก้อนน้ำแข็งจนโตเท่าผลส้มตกลงหัวอย่างรุนแรง เธอล้มลงเสียชีวิตทันที (เฮ้อ..ทำมั้ยซวยยังงี้)

6. แข่งกินของสัปดนชิงแชมป์โลก
การ แข่งนี้เกิดขึ้นที่ออสเตเลีย ชื่อรายการ ไอแซล อีท แอนนีธิง คอนเทสต์ แปลว่าฉันจะ แ ด ก ทุกอย่างที่ขวางหน้า ของที่กินมีทั้ง คอไก่สดๆ ฉี่วัว1ถ้วย หนอน ไส้เดือนสด ไขมันคน 1 ถ้วยที่ดูดมาจากคลีนิก (แวะ )

7. สั่งขี้มูลไกลที่สุดในโลก
โจ อานนี่ เมสัน สาวสวย หุ่นดี แต่พฤติกรรมสุดอนาถ เพราะเธอมีความสามารถพิเศษคือสั่งขี้มูกขนาดเท่าเม็ดถั่วแดงไกลถึง 151 ฟุต 3 นิ้วครึ่งขนาดเท่าสนามฟุตบอล (โอโห ซูดยอด)

8.แมวฉันอยู่ในจานเป็ด
มา ร์ซา ชาวนิวยอร์ก เสียใจมากที่แมวตัวโปรดชื่อ พัลซั่ม หายตัวไป เธอเศร้ามากจึงเดิมมาที่ภัตราคารจีน "xxx๊ดลัค ยู แฮป"สั่งเป็ดทอดมากินเพราะคิดว่าเธอจะคลายเศร้าได้ พอดีตอนที่เธอกินอาหารอย่างอร่อย ตำรวจ 3 นาย มาร้านพร้อมหมายค้นว่าร้านนี้ลักแมวลักหมามาปรุงอาหารขายแก่ลูกค้า......และ แล้วมาร์ชาก็ตามตำรวจไปดูในครัวแล้วก็เห็นหัวแมวของเธอแขวนกับตะขอ และพ่อครัวก็ยอมรับว่าเป็ดทอดที่เธอกินเป็นแมวของเธอเอง............... อร่อย

9. ฉี่ก็มีดี

นัก วิจัยชาติไหนก็ไม่รู้เ พากันตกตะลึงว่าฉี่นั้นมีดี โดยพบคุณสมบัติที่ว่ามีฤทธิ์คล้ายยากล่อมประสาท ทำให้คนรู้สึกสุขสบายและมีความสุข เมื่อเห็นดังนี้นักวิจัยเลยนำไปสกัดเป็นแคปซูลขายในราคา 5 ดอลลาร์เสียเลย

10.มนุษย์ตดตายอย่างสมศักดิ์ศรี
โจ นาธาน กริกส์ ชาวอังกฤษ เขาป่วยเป็นโรคประหลาด เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินย่อยอาหารและกล้ามเนื้อทำให้เกิดแก๊สในท้องและตด เป็นประจำทุกระยะ 11 วินาที อยู่ดีไม่ว่าดีนายคนนี้ดันมีภรรยาและอยู่ 19 ปีเต็ม มีหรือที่เธอจะทนได้ เธอเลยจับสามีขังไว้ในตู้เก็บผ้าแบบปิดมิดชิด ปล่อยให้สามีตดตั้งแต่เช้าจนเย็น และวันต่อมาภรรยาเขาก็ลองจุดไฟเหย่ไปดู ปรากฏว่าบ้านระเบิดพังเป็นแถบ ตายกันทั้งสามีภรรยา

...หากชาติมีจริง ขอให้เราทั้ง2เกิดมาคู่กัน...

11.นักเลียสิวสถิตโลก
นาง สาวแซลลี่ ดาลตัน อายุ 19 ปี เมืองโอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เปิดอาชีพเป็นนักเลียสิว โดยใช้ลิ้นสะกิดสิวให้หัวออก เธอทำทั้งหัวดำ หัวช้าง และเธอทำมาตั้งแต่ปี 1942 จนอายุ 21 ปี เธอทำสถิตเลียสิวแก่ผู้คนรวม 5000 คน

12.อาหารชวนอ้วกที่สุดในโลก
วง การอาหารโลกต้องบันทึกสถิตว่าเป็นอาหารที่ขยะแขยงของโลกที่เคยมีบันทึกมา เหตุเกิดที่ภัตตาคาร "โอมาร์" ในกรุงอัสตันบูล ประเทศตุรกี มีอาหารชนิดหนึ่งชื่อ "ซุปเห็ด" ดังมากคนต่อเข้าคิวไปกินจนแน่นร้านทุกวัน  มีอยู่วันหนึ่งลูกค้าคนหนึ่งเกิดสงสัยว่าทำไมเนื้อเห็ดมันเหนียวผิดปกติกว่า วันอื่นๆ จึงมีการตรวจสอบ ผลปรากฏว่าแท้ที่จริงเนื้อเห็ดที่เหนียวๆ นั้น เป็นเนื้อผิวหนังที่ตาย ตัดออกจากปลายแขน ปลายขา คนป่วยโรคเรื้อนนั้นเอง.....อ้วก! (สงสัย...คงอร่อยน่าดู )

13.หมอพยาบาลหนีกระเจิง
เหตุ เกิดที่ห้องผ่าตัดแห่งหนึ่งในนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อแพทย์และพยาบาลดูดไขมันจากหน้าทาง(ไลโปซัคั่น) จากสาวอ้วนคนหนึ่งชื่อ มาร์ธ คีเนอร์ หนัก 975 ปอนด์ หรือ 442 กิโลกรัม ระหว่างที่ดูดจู่ๆ เครื่องดูดไขมันเกิดทำงานผิดพลาดแทนที่จะพ่นไขมันลงถุงกลับพ่นกระจายไปทั้ง ห้อง แพทย์ และพยาบาล ต้องวิ่งหนีอุตลุด

14.เรื่องน่าเศร้าของช่างตัดผมตาบอด
ซา มูเอล โครเจอร์ อายุ 55 ปี เป็นช่างตัดผมอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ตาบอดทั้งสองข้าง วันนั้นแก่เดินถือเก้าอี้สำหรับเด็กสำหรับนั่งตัดผม ขณะนั้นเขาเดินอยู่ริมถนนในเมืองแอตแลนต้า ด้วยความซวย ซามูเอลเกิดล้มหน้าคะมำลงกับพื้น บังเอิญมีหมามาขี้ไว้เกินบะเริ่ม ก้อนขี้หมานั้นเข้าปากเขาเต็มๆๆ.....อ้วก! (เฮ้อ...ซวย)

15.อาหารนี้ช่วยรอดชีวิต
ด. ช. ทอมมี่ กรีลีย์ อายุ 10 ขวบ อาศัยอยู่ในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เขาเกิดมาพร้อมโรคแพ้อาหารทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนมแม่ ขนมก็แพ้ ถ้ากินเข้าไปจะอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง แต่......มีอาหารอย่างหนึ่งที่ทอมมี่กินแล้วไม่อ้วก และสามารถเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง นั้นคือขี้มูลเหลวๆ จากปากหรือจมูกเด็กๆ นั้นเอง

16.มนุษย์ปืนใหญ่ลงผิดที่
 
โร เจอร์ เคนนีย์ เป็นนักแสดงผาดโผนเสี่ยงตาย เป็นมนุษย์ปืนใหญ่ยิงจากปากกระบอกปืนไปไกลถึง 100 ฟุต แล้วตกไปจุดที่คำนวณไว้อย่างแม่นยำ  ครั้งหนึ่งในการแสดง เกิดความผิดพลาดจากแรงอัดกระบอกปืนทำให้ร่างเขาลอยพ้นตาข่าย และเวลานั้นช้างกำลังขี้พอดี หนาของโรเจอร์จึงพุ่งเข้าตูดช้างอย่างแม่นยำ (เจ๋งเป้ง...แม่นเปะ)

17.มนุษย์งู
เรื่อง นี้เคยออกข่าวมาแล้วช่อง 3 บรูโน่ โทรลอคซี่ ชาวอิตาลี กำลังฝึกฝนสมาธิแบบชาวตะวันออก วันๆ ไม่ทำการอะไร เอาแต่เล่นโยคะ อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกว่าลิ้นของเขามันใหญ่ไป คับปากคับคอ เป็นอุปสรรคต่อการฝึกสมาธิเขาจึงใจกรรไกลคมๆ อ้าปากอาๆๆ แล้วตัดฉับลิ้นแยกเป็น 2 แฉก จบ..............

18.ศิลปิน
เน็ด โทเลอร์ ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินสุดเพี้ยน แต่งานเขานั้นสวยงาม ตระการตา ความสัปดนเขาเริ่มขึ้นเมื่อเมียคลอดแฝด 3 ออกมา ด้วยความแป็นศิลปิน เขาเอาผ้าออมแบบใช้แล้วของเด็กแฝดมาจัดการคลุกเคล้ากับขี้แล้วผสมอะไร บางอย่าง สร้างผลิตภัณฑ์เครื่องประดับ เช่น สร้อยลูกประคำ เข็มกลัดติดเสื้อ กิ๊ปหนีบผม ฯลฯ

19.มนุษย์หมาป่า
โร เบิร์ต จอห์นสัน หรือ เฟ็ช เกิดพลัดหลงพ่อมากลางป่า ฝูงหมาป่ามาเห็นเข้าจึงเก็บไปเป็นลูก ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนกระทั้ง 10 ขวบ จึงได้รับการช่วยเหลือออกมาอยู่กับสังคมมนุษย์เหมือนเดิม แต่นิสัยของโรเบิร์ตยังแก้ไม่หาย แม้ปัจจุบันนี้ เขาจะโตแล้ว เป็นถึงผู้บริหารนักการธนาคาร แม้ในขณะประชุม เขายังขอเวลานอกเพื่อที่จะเข้าห้องส่วนตัว อาเจียนของเก่าออกมาใส่จานแล้วเลียกลับเข้าไปเหมือนเดิม

20.คนสกปรกที่สุดในโลก
วิ ลลี่ เครเมอร์ แห่งเมืองยูยีน รัฐโอเรกอน ได้รับฉายาว่า คุณขี้เปียก เนื่องจากเขาสะสมก้อนประหลาดกลิ่มเหม็นเน่า หนักกว่า 27 ปอนด์ไว้ห้องนั่งเล่นเขา ก้อนเหม็นนั้นมาจากสิ่งละอันพันละน้อยจากสะดือ รูหู จากรูจมูก ขี้ไคล ผสมด้วยน้ำอสุจิ

21.ภารโรงขี้เล่น
ใน ห้องแล้บทดลองทางโภชาการแห่งหนึ่ง ในเมืองแฟรค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อนักวิจัยกลับบ้านแล้ว ก็ถึงเวลาที่ภารโรงมาทำความสะอาด วันรุ่งขึ้นนักวิจัย เข้ามาภายในเพื่อเข้าทำงานต่อ แทนที่จะทำงานกับด่าพ่อล้อแม่เพราะถาดงานวิจัยเกิดสลับปนไปหมด พร้อมถาดใส่ใส้เอแคลร์กับราสเบอรี่ ได้มีถาดก้อนสำลีซับเลือดซับหนองมาแทนเพราะภารโรงขี้เล่นแท้ ๆ (เฮ้อ...ซวย)

22.ดิ่งพสุธาลงผิดที่
แค เธอรีน เดลาแพลนเต้ เป็นนักดิ่งพสุธาหญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นมืออาชีพ ครั้งหนึ่งเธอดิ่งพสุธา ปรากฏว่าถูกลมกรรโชกเลยเป้าหมายออกนอกเมืองนับเป็นไมล์ ๆ เธอบังคับร่มลงในแปลงปลูกผักแปลงหนึ่ง โดยหล่นตูมลงถังปุ๋ยหมักที่เปิดฝาจนขึ้นอืด อย่างสุด ๆ
(เย่ แม่นจัง )

23.ฆ่าตัวตายแบบสกปรก
เคนท์ เกรียร์ วัย 56 ปี ชาวอังกฤษ ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบเรื้อรังหลายปี ทำให้เขาหายใจลำบาก มีเสลดพัดคอตลอดเวลา ความจริงรักษาหาย แต่เขาบอกตัวเองว่า "อยู่ไปก็รกโลก" จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายแบบพิสดาร เขาเติมน้ำจนเต็มอ่างอาบน้ำเด็กก้มหน้าปล่อยให้เสลด น้ำมูก ปะแน่นรูจมูก 2 รู และบางส่วนปิดหลอดลม จนหน้าเขาซุกลงในอ่างน้ำ แล้วเขาก็ตายอย่างสมใจนึกเพระขาดอากาศหายใจ

24.จิตแพทย์ก็บ้าเป็น
เมื่อ ปี 1992 มีจิตแพทย์ผู้วชาญโรคจิตในผู้สูงอายุชาวอเมริกันนำเสนอวิธีการบำบัดโรคจิต แก่คนไข้ของตนเอง โดยให้คนไข้แก้ผ้าแล้วนอนในอ่างอาบน้ำ จากนั้นหมอก็แก้ผ้าจนล่อนจ้อนก้มหน้าใช้ลิ้นตัวเองเลียร่างกายคนป่วยจนทั่วตัว กว่าจะรู้ว่าจิตแพทย์คนนั้นเป็นบ้า ด้วยให้คนป่วยโรคจิตแหละมาบอกว่า "หมอเป็นบ้าไปแล้วเจ้าค่า"
-อาจจะต้องใช้วิจรณญาณในการอ่านหน่อย ! เพราะมันชวน... ?-
 

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ประวัติและสถานที่ท่องเที่ยวในฝรั่งเศส

                
                         ธงชาติฝรั่งเศส                        
              
   


                ตราประเทศฝรั่งเศส


ข้อมูลทั่วไป
                  
                   สาธารณรัฐฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีศูนย์กลางตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่นๆ ในต่างทวีป ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทอดตัวตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือ และจากแม่น้ำไรนจนถึงมหาสมุทรแอตแลนติกชาวฝรั่งเศสมักเรียกแผ่นดินใหญ่ว่า หกเหลี่ยม (L'Hexagone)เนื่องจากรูปทรงทางกายภาพของประเทศ ประเทศฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกึ่งประธานาธิบดี โดยยึดอุดมการณ์จากปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของมนุษย์และของพลเมืองประเทศฝรั่งเศสมีพรมแดนติดกับประเทศเบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี โมนาโก อันดอร์รา สเปน และเนื่องจากประเทศฝรั่งเศสมีดินแดนโพ้นทะเลไว้ในครอบครอง ทำให้มีอาณาเขตติดกับประเทศบราซิลและซูรินาเม (ติดกับเฟรนช์เกียนาและหมู่เกาะอินดีสเนเธอร์แลนด์ตะวันตก (ติดกับแซงต์-มาร์แตง)อีกด้วย นอกจากนั้นประเทศฝรั่งเศสยังเชื่อมกับสหราชอาณาจักรทางอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษอีกด้วยประเทศฝรั่งเศสเคยเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17เป็นต้นมาในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 จักรวรรดิฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศจักรวรรดินิยมที่มีอาณานิคมในครอบครองมากที่สุดในโลกแผ่อาณาเขตตั้งแต่แอฟริกาตะวันตกจนถึงเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเห็นได้ชัดจากอิทธิพลทางวัฒนธรรม ภาษาและการเมืองการปกครองของดินแดนนั้นๆ ประเทศฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 6ของโลก ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 82ล้านคนต่อปี ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปและมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศอีกด้วย ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ เป็นสมาชิกประชาคมผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสโลกจีแปด นาโต้และ สหภาพละติน ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่มีหัวรบนิวเคลียร์กว่า 360 หัวรบและเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 59 แห่ง

 ประวัติศาสตร์

                                                           
 
         นโปเลียนผู้ยิ่งใหญ่

ชาวฝรั่งเศสสืบเชื้อสายมาจากพวกโกลในศตวรรษที่ 1จากนั้นตกมาอยู่ใต้การปกครองของพวกแฟรงก์ (ชื่อประเทศ Franceมาจากคำว่าแฟรงก์เช่นกัน) ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ที่มีบันทึกว่าเริ่มในศตวรรษที่ 5เมื่อพระเจ้าชาร์เลอมาญตั้งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ใน ค.ศ. 843 ก็มีอาณาเขตครอบคลุมทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนี ราชสำนักฝรั่งเศสขึ้นสู่จุดสูงสุดในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งในยุคนี้ฝรั่งเศสได้เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในยุโรป และมีอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ ศิลปะ และวัฒนธรรมต่อยุโรปเป็นอย่างมากฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกษัตริย์จนถึงการปฏิวัติฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1792 จึงเปลี่ยนมาใช้ระบอบสาธารณรัฐ หลังจากนั้นนโปเลียน โบนาปาร์ตได้ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิและรุกรานประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป เมื่อ นโปเลียนพ่ายแพ้ ฝรั่งเศสจึงกลับมาใช้ระบบสาธารณรัฐอีกครั้ง เรียกว่ายุคสาธารณรัฐที่สองแต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะหลุยส์ นโปเลียน หลานลุงของนโปเลียนได้ยึดประเทศและตั้งจักรวรรดิที่สองอีกครั้ง ตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึง ทศวรรษที่ 60 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคม จักรวรรดิฝรั่งเศสมีพื้นที่ใหญ่มาก โดยช่วงที่ใหญ่ที่สุดคือช่วงยุคทศวรรษที่ 20 ถึง 30 ซึ่งมีกว่า 12,898,000 ตารางกิโลเมตร และเป็นจักรวรรดิอันดับสองของโลก รองมาจากจักรวรรดิอังกฤษ
ฝรั่งเศสได้รับความบอบช้ำอย่างหนักจากสงครามโลกทั้งสองครั้ง ปัจจุบันใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีทั้งประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี (เรียกยุคสาธารณรัฐที่ห้า) ทศวรรษที่ผ่านมาฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นผู้นำของการรวมตัวตั้งประชาคมยุโรป ซึ่งพัฒนามาเป็นสหภาพยุโรปในปัจจุบัน

วัฒนธรรมและประชากร
             
วัฒนธรรม ชาวฝรั่งเศสมีวัฒนธรรมการนอนกลางวัน จึงส่งผลให้ประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศสชอบนอนกลางวันตามไปด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนลึกของวัฒนธรรม คล้ายคลึงกับของอังกฤษและอิตาลีอยู่แล้ว ไม่สามารถแบ่งได้ชัดเจนเด่นชัด เช่น การจับมือ ภาษา เป็นต้นประชากร ประชากร ประชากรจำนวน 62.2 ล้านคน (ปี 2005) ความหนาแน่นของประชากร 96 คนต่อตารางกิโลเมตรเมืองมีประชากรมากกว่า 100,000 คนมีถึง 57 เมือง

สภาพภูมิอากาศ
   
ในฝรั่งเศสนับเป็นข้อได้เปรียบประการหนึ่งทางด้านการท่องเที่ยวโดยทั่วไปสามารถแบ่งเขตอากาศในฝรั่งเศส
ออกเป็น4เขตใหญ่ๆคือ -เขตอากาศแบบมหาสมุทรทางภาคตะวันตกของประเทศ ได้แก่ พื้นที่ Bayonne - Lille
ซึ่งมีความชื้นสูง เย็นสบายในช่วงฤดูร้อน
-เขตอากาศแบบกึ่งแผ่นดินใหญ่ ได้แก่ พื้นที่ Alsace Lorraine พื้นที่ตามแนวแม่น้ำ Rhône และพื้นที่ภูเขา
(Alpes - Pyrenees - Massif Central) ซึ่งหนาวเย็นมากในฤดูหนาว และค่อนข้างร้อนในฤดูร้อน
-เขตอากาศแบบปานกลางซึ่งหนาวเย็นในฤดูหนาวและอบอุ่นใน ฤดูร้อน ได้แก่ ภาคเหนือของประเทศ พื้นที่ปารีส
และปริมณฑล และในเขตตอนกลางประเทศ
-เขตอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งไม่หนาวมากนักในฤดูหนาว แต่ร้อนมากในฤดูร้อน

ภาษาและสกุลเงิน
ภาษาฝรั่งเศส (Francais)  หน่วยเงินของฝรั่งเศส : คือฟรังค์ (FF) 1 ฟรังค์มีค่าเท่ากับ 100 ซองตีม (เซนต์) ซึ่งมีมูลค่าเป็นเงินไทยประมาณ 7 บาท (เดือน มิถุนายน 2541) ธนบัตรฝรั่งเศสมีมูลค่า 500,200,100,50 และ 20 ฟรังค์ เงินเหรียญของฝรั่งเศสมีมูลค่า 50,20,10 และ 5 ซองตีม เหรียญ 50 ซอง จะออกมาในลักษณะ ฟรังค์

สิ่งที่ควรทำ-ไม่ควรทำ
1.คุณสามารถกล่าวทักทายว่าบงชู (Bonjour)ซึ่งหมายถึงสวัสดีตอนเช้า หรือ บงซัว (Bonsoir)ที่หมายถึงสวัสดีตอนเย็น และกล่าวลาเมื่อจะจากไปด้วยคำว่า "โอ(เครอ)วัว(Au revoir)"ที่แปลว่า ลาก่อนและกล่าวขอบคุณว่า "แม็กซิ (Merci)
2. วิธีทักทายสำหรับคนที่รู้จักกันนั้นคือการแลกจูบแก้มซึ่งกันและกันไม่ว่าคู่ทักทายของคุณจะเป็นหญิงหรือชาย ตามงานพิธีต่างๆ ชาวฝรั่งเศสใช้วิธีชนแก้มกันทั้งสองข้าง ว่ากันว่าชาวปารีสนิยมแนบแก้มกันถึง 4 ครั้ง ถ้าเป็นเมืองนอกเขตปารีสทำเพียง 2 ครั้ง
3. เมื่อไปรับประทานอาหารตามภัตราคารอย่าตะโกนเรียกบริหรว่า"การ์ซ็อง(garcon)"ที่ตรงกันกับภาษาอังกฤษว่าboy ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสถือว่าไม่สุภาพ ควรเรียกว่าเมอซิเออร์ และกล่าวคำว่า ซิล วู เปล ซึ่งแปลว่ากรุณา เวลาสั่งอาหารหรือขออะไรเพิ่มเติมจึงถือว่าสุภาพและควรถอดหมวก เสื้อคลุม โอเวอร์โค๊ดหรือแจ้กเก็ต เพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่ก่อนทุกครั้ง
4. สนามหญ้าในฝรั่งเศสมีไว้ให้ดูและชื่นชมความเขียวชอุ่ม ห้ามแตะต้องเด็ดขาด ยกเว้นตามสนามหญ้าที่เปิดเป็นสาธารณะ หากคุณละเมิดกฏเข้าไปในสนามหญ้าซึ่งมีป้าย pelouse interdite แปลว่า สนามหญ้าห้ามเข้า กำกับอยู่ ถือว่าคุณทำผิดกฏหมาย
5. เมื่อชาวฝรั่งเศสต้องการโบกมือลาเขาจะยกมือพร้อมกับขยับนิ้วขึ้นลง ๆ
6. รถแท็กซี่ในฝรั่งเศสนั่งได้ 3 คน เฉพาะที่ตรงด้านหลังคนขับเท่านั้นที่นั่งด้านขวามือข้างหน้าคู่กับคนขับนั้น มักไว้ให้เป็นที่นั่งของสัตว์เลี้ยง


สถานที่ท่องเที่ยว แนะนำนะค่ะ :)


1.
                                                 

                                                             หอไอเฟล(Eiffel)
หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลมีความสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) (รวมเสาอากาศสูง 24 เมตร (79 ฟุต)) ซึ่งก็สูงเท่ากับตึก 81 ชั้นเมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นอนุสาวรีย์วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ปัจจุบันฟอไอเฟลสูงเป็นอันดับที่ 5 ในประเทศฝรั่งเศสและสูงที่สุดในกรุงปารีส ซึ่งอันดับสองคือ หอมงต์ปาร์นาสส์(Tour Montparnasse - 210 เมตร หรือ 689 ฟุต)
ซึ่งในไม่ช้าจะถูกแทนที่โดยหออาอิกซ์อา (Tour AXA - 225.11 เมตร หรือ 738.36 ฟุต)หอไอเฟลมีความสูง 300 เมตร (986 ฟุต) ซึ่งไม่รวม เสาอากาศ 24 เมตร (72 ฟุต) ด้านบนนั้น ถ้าเปรียบเทียบกับตึกแล้วจะมีประมาณ 75 ชั้น ในขณะที่ก่อสร้างปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดบนโลก โดยถูกล้มตำแหน่งเมื่อเมืองนิวยอร์กได้สร้าง ตึกไครสเลอร์ สูง 319 เมตร (1047 ฟุต)
น้ำหนักเหล็กที่ใช้ก่อสร้างนั้นทั้งหมด 7,300 ตัน และถ้ารวมทั้งหมดก็เป็น 10,000 ตัน ส่วนจำนวนบันไดนั้นเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อแรกเริ่มนั้นมี 1710 ขั้น ในทศวรรษที่ 1980 มี 1920 ขั้น และในปัจจุบัน มี 1665 ขั้น

                                          

2.                                        พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre museum)พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกันชื่อดังเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่กว่า 60,000 ตารางเมตร ภายในบรรจุงานศิลป์ อายุ  ยาวนานกว่า 11 ศตวรรษ จำนวน ประมาณ 380,000 ชิ้น ทั้งรูปปั้น ภาพวาด อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่ง Antioch และมีเพียงงานปั้นและภาพวาด 30,000 ชิ้น เท่านั้นที่นานๆจะนำออกมาแสดงหากจะย้อนดูความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คงต้องย้อนไปถึง ศตวรรษที่ 12 เมื่อครั้งที่กษัตริย์ ฟิลิปเป้ ออกัสเต้ ได้ก่อสร้างป้อมปราการเพื่อป้องกันกรุงปารีสจากหมู่โจรสลัด โดยจุดที่เลือกก่อตั้งคือริมแม่น้ำเซน ป้อมปราการ และคูคลองยุคกลางยังคงมีให้เห็นในปัจจุบันนี้ต่อมาฟรังเชสที่ 1 ได้รื้อถอน ตึก เก่า แล้วได้สร้างขึ้นใหม่เป็นพระราชวังหลวงและที่พักในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมของฝรั่งเศส ซึ่งได้กลายเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับจัดแสดงของสะสมของกษัตริย์นับแต่นั้นมา  นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้ยังเคยเป็นที่จัดงานแต่งของนโปเลียนผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิฝรั่งเศสอีกด้วย  ในปี พ.ศ. 2549 พิพิธภัณฑ์ลูฟร์มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวน 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลกและยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส




                                        


  3.                                 พระราชวังแวร์ซายส์ (Versaille Palace)
เป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่เมืองแวร์ซายส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมหานครปารีส พระราชวังแวร์ซายส์เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก และนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันด้วย เดิมนั้น เมืองแวร์ซายส์เป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น มีผู้คนอาศัยอยู่เบาบาง บริเวณส่วนใหญ่เป็นป่าเขา เยี่ยงชนบทอื่น ๆ ของฝรั่งเศส เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ยังทรงพระเยาว์ ขณะพระชนมายุได้ 23 พระชันษา ทรงนิยมล่าสัตว์ในป่า และทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายส์น่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักขึ้นมาใน พ.ศ. 2167 โดยในช่วงแรกเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ สำหรับพักชั่วคราวเท่านั้น  เมื่อ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ขึ้นครองบัลลังก์ มีประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ จึงเริ่มปรับปรุงพระตำหนักเดิมในปี พ.ศ. 2204 ใช้เงินทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์ คนงาน 30,000 คน และใช้เวลาอยู่ถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2231 ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก ภาย ในแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ฯลฯ ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง การก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายส์แห่งนี้ได้นำเงินมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส ต่อมาจึงได้มีกองทัพประชาชนบุกเข้ายึดพระราชวังและจับ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อองตัวเนต ประหารด้วยกิโยตินในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2332 ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ยังอยู่ในสภาพดีและเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้


 


                                      

 4.                                  ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de triomphe)
เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม จัตุรัสแห่งดวงดาวทิศตะวันตกของชองป์-เซลิเซ่ส์ ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามนโปเลียน และในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย ประตูชัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของ"แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์" (L'Axe historique) ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงจากสวนพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ไปยังชานเมืองปารีส ประตูชัยแห่งนี้ออกแบบโดยฌอง ชาลแกร็งในปีพ.ศ. 2349 โดยมียุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศสกำลังต่อสู้กับทหารเยอรมัน เต็มไปด้วยเคราและใส่เกราะเป็นสัญลักษณ์เพื่อเป็นการปลุกใจ และเป็นอนุสรณ์สถานจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1 ประตูชัยฝรั่งเศสมีความสูง 49.5 เมตร (165 ฟุต) กว้าง 45 เมตร (148 ฟุต) และลึก 22 เมตร (72 ฟุต) เป็นประตูชัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
แบบของประตูชัยฝรั่งเศสนี้ได้แนวความคิดมาจากประตูชัยไตตัส ประตูชัยฝรั่งเศสมีความใหญ่มาก เพราะหลังจากมีการสวนสนามในปรุงปารีสเมื่อปี พ.ศ. 2462 นีอูปอร์ต (Nieuport) ผ่านกลางประตูชัยฝรั่งเศสเพื่อเป็นการสดุดีเหล่าทหารอากาศที่ได้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ประตูชัยฝรั่งเศสเป็น
หนึ่งในอนุสรณ์สถานที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปารีสได้ถูกมอบหมายให้สร้างในปี พ.ศ. 2349 หลังจากจักรพรรดินโปเลียนที่ 1ได้รับชัยชนะในยุทธการเอาสเตอร์ลิทซ์ กว่าจะวางรากฐานของการก่อสร้างก็ใช้เวลาเกือบ 2 ปีไปแล้ว และในปี พ.ศ. 2353 เมื่อจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เสด็จกรุงปารีสจากทางทิศตะวันตกพร้อมด้วยเจ้าสาว อาร์คดัชเชสมารี หลุยส์แห่งออสเตรีย ประตูชัยฝรั่งเศสก็ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ในแบบจำลองเท่านั้นเอง สถาปนิก ฌอง ชาลแกร็ง ได้เสียชีวิตลงในปี พ.ศ. 2354 ดังนั้นอูยงจึงได้ดูแลงานนี้ต่อมา ในช่วงราชวงศ์บูร์บงฟื้นฟู การก่อสร้างได้หยุดชะงักลงและไปเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปป์ในระหว่าง พ.ศ. 2376 - พ.ศ. 2379 โดยสถาปนิกคือกูสต์ ต่อมาคืออูโยต์ ภายใต้การดูแลของหลุยส์-เอเตียนน์ เอริการ์ต เดอ ตูรี (Louis-Étienne Héricart de Thury)


เครดิต http://www.qetour.com/france-travel-guide.php

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Tour de france 2011

เส้นทางการแข่งขัน



The 2011 map of the Tour
เริ่มแข่งตั้งแต่วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคมถึงวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2011 ที่ 98 Tour de France จะถูกสร้างขึ้นจากขั้นตอน 21 และจะครอบคลุมรวมระยะทาง 3,430.5 กิโลเมตร
 เป็นการแข่งแบบบุคคลแต่นักแข่งต้องสังกัดทีม (จำนวนทีมเข้าแข่งขัน 20-22ทีม)
- ทีมที่จะเข้าแข่งขันต้องเป็นทีมที่ได้รับเชิญจากผู้จัดฯ
- แต่ละทีมมีนักปั่นทีมละ 9 คน ช่วยกันทำหน้าที่(ปั่น)ต่างๆกันไป
- แข่งขันกันในช่วงสามสัปดาห์ (21 วัน)
- แข่งวันละสเต็จทุกวัน (มีวันพัก 2 วัน) ระยะทางรวมประมาณ 3,200 ก.ม.
- แบ่งเป็นสเต็จทางเรียบประมาณครึ่งหนึ่ง, TT ทีม 1 สเต็จ, TT เดี่ยว 1 สเต็จ...ที่เหลือทางขึ้นเขา (เกือบสิบสเต็จ)
- ผู้ชนะประเภทเวลารวม (เสื้อเหลือง) คือผู้ทำเวลารวมได้น้อยที่สุด (บางสเต็จ/จุดพิเศษมีการลดเวลาให้ผู้เข้าเส้นชัยเป็นโบนัส)
- ผู้ชนะประเภทคะแนนรวม (เสื้อเขียว) คือผู้ทำแต้มสะสมสูงสุด โดยผู้ที่เข้าเส้นชัย 25 อันดับแรกในทุกสเต็จจะได้คะแนนสะสม
- ผู้ชนะในสเต็จขึ้นเขา (เสื้อลายจุด) คือผู้ทำคะแนนสะสมในสเต็จภูเขารวมสูงสุด
- ผู้ชนะที่อายุน้อยกว่า 25 (เสื้อขาว) ที่ทำเวลารวมดีที่สุดในกลุ่มนักปั่นอายุน้อย
- ผู้ชนะประเภททีมคือนับเวลารวมของคนที่ดีที่สุดสามคนแรกของแต่ละสเต็จ
- ผู้ชนะประเภท Super Combativity คือนักปั่นที่ปั่นได้ดุเดือด (break-away?)


การแข่งจักรยาน Tour de France คือการแข่งจักรยานทางไกล ที่มีระยะทางประมาณ 3,600 กม. ใช้เส้นทางบนถนนของประเทศฝรั่งเศล และประเทศใกล้เคียงเป็นสังเวียนอันดุเดือด กินระยะเวลา 3 สัปดาห์ การแข่งจะแบ่งออกเป็นช่วงๆในแต่ละวัน เรียกว่า "เสตจ" เวลาของแต่ละวันจะถูกบันทึกเอาใว้ ซึ่งผุ้แข็งแกร่งที่สุด ทำเวลารวมทุกเสตจได้น้อยที่สุด จะเป็นผู้ชนะการแข่งรายการนี้ ได้ถือครองเสื้อเหลือง อันเป็นเกียรติยศสูงสุดของโลกจักรยาน

นายคนนี้ครับ Firmin Lambot
การแข่งขันจะใช้เส้นทางแตกต่างกันทุกปีไม่ เหมือนกัน แต่นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 เป็นต้นมา เส้นชัยสุดท้ายจะอยู่ที่ถนน Champs-Élysées ถนนเส้นที่สวยที่สุดในโลกกลางกรุงปารีส ถือเป็นไคลแมกซ์สุดท้ายก่อนสิ้นสุดชัยชนะต่อหน้าประตูชัยที่ตั้งตระหง่าน เป็นสักขีพยานแด่ผู้แข่งขันทั้งหมดที่ฝ่าฟันการเดินทางสุดโหดมาได้สำเร็จ

Tour de France สมัยใหม่ ถูกแบ่งออกเป็นเสตจต่างๆ 21 เสตจ มีระยะทางรวมไม่เกิน 3,500 กม. ซึ่ง การแข่งที่ยาวที่สุดเคยเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1926 มีระยะทางทั้งสิ้น 5,745 กม. และการแข่งที่สั้นที่สุดมีระยะทางเพียง 2,420 กม. เมื่อปี ค.ศ.1904 การแข่งจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คั่นด้วยวันพัก 2 วัน โดยปกติแล้ววันพักดังกล่าวคือวันที่ผู้จัดออกแบบมาเพื่อสำหรับการขนส่งนัก กีฬาและทีมงานจากเมืองหนึ่งไปเริ่มต้นอีกเมืองหนึ่ง เพราะปกติรายการนี้ เมื่อสิ้นสุดที่เมืองใด วันรุ่งขึ้นจะเริ่มต้นที่เมืองนั้นเดินทางต่อไปอีกเมืองหนึ่ง เส้นทางโดยรวมของการแข่งขัน คือการวนรอบฝรั่งเศสและประเทศใกล้เคียงแบบตามเข็มหรือทวนเข็มนาฬิกา ความโหดเทียบได้กับการวิ่งมาราธอนติดกันทุกวันเป็นเวลา 3 สัปดาห์ และหากนำความสูงที่ได้จากการไต่เขาทุกลูกมารวมกันก็จะได้ความสูงยิ่งกว่าการ ไต่ยอดเขาเอฟเวอเรส 3 ลูกต่อกัน




CANCELLARA Fabian TEAM SAXO BANK แชมป์ปี2010 รูปภาพ

Tour de france

Bicycle-icon.png ตูร์เดอฟรองซ์ (ฝรั่งเศส: Tour de France หมายถึง การท่องฝรั่งเศส) หรือบางครั้งเรียกว่า ลากรองด์บูกล์ (La Grande Boucle) และ เลอตูร์ (Le Tour) เป็นการแข่งขันจักรยานทางไกลรอบประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1903 จนถึงปัจจุบัน (เว้นการจัดแข่งขันในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง)
ตูร์เดอฟรองซ์ เป็นการแข่งขันจักรยานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก เป็นการแข่งขันจักรยานทางไกลหนึ่งในสามรายการใหญ่ ที่จัดการแข่งขันในยุโรป รวมเรียกว่า แกรนด์ทัวร์ โดยอีกสองรายการคือ
การแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1903 เกิดขึ้นเนื่องจากการท้าทายกันทางหน้าหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสชื่อ โลโต้ (L'Auto) มีนักแข่งเข้าร่วมจำนวนถึง 60 คน แต่สามารถเข้าเส้นชัยได้เพียง 21 คน ซึ่งกิตติศัพท์ของความยากลำบากในการแข่งขัน ทำให้การแข่งขันนี้เป็นที่สนใจ และมีผู้ชมการแข่งขันช่วงสุดท้ายในกรุงปารีส ตามสองฟากถนนระหว่างทางราว 100,000 คน และกลายเป็นประเพณี ที่การแข่งขันทุกครั้งจะไปสิ้นสุดที่ประตูชัย จตุรัสเดอเลตวล ปารีส
ในปี ค.ศ. 1910 เริ่มมีการจัดเส้นทางแข่งขันเข้าไปในเขตเทือกเขาแอลป์ ปัจจุบันเส้นทางการแข่งขันจะผ่านทั้งเทือกเขาแอลป์ ทางตะวันออก และเทือกเขาพีเรนีสทางใต้ของฝรั่งเศส
การแข่งขันตูร์เดอฟรองซ์จะแบ่งเป็นช่วง (stage) เพื่อเก็บคะแนนสะสม ผู้ชนะในแต่ละช่วงจะได้รับเสื้อ (jersey) เพื่อสวมใส่ในวันต่อไป โดยมีสีเฉพาะสำหรับผู้ชนะในแต่ละประเภท คือ

Jersey yellow.svgสีเหลือง (maillot jaune - yellow jersey) สำหรับผู้มีคะแนนรวมสูงสุด

Jersey green.svgสีเขียว (maillot vert - green jersey) สำหรับผู้ชนะในแต่ละสเตจ

Jersey polkadot.svgสีขาวลายจุดสีแดง (maillot à pois rouges - polka dot jersey) สำหรับผู้ชนะในเขตภูเขา ซึ่งมีชื่อเรียกเฉพาะว่า จ้าวภูเขา King of the Mountains

Jersey white.svgสีขาว (maillot blanc - white jersey) สำหรับผู้มีคะแนนรวมสูงสุด ที่อายุต่ำกว่า 25 ปี

Jersey worldtour.svgสีรุ้ง (maillot arc-en-ciel - rainbow jersey) สำหรับผู้ชนะการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลก (World Cycling Championship) ซึ่งมีกฏว่าจะต้องใส่เสื้อนี้เมื่อแข่งขันในประเภทเดียวกับที่ผู้แข่งนั้นเป็นแชมป์โลกอยู่

Jersey combined.svgเสื้อแบบพิเศษ สำหรับผู้มีคะแนนรวมสูงสุด และชนะการแข่งขันช่วงย่อย และจ้าวภูเขา

ผู้ชนะเลิศ
แลนซ์ อาร์มสตรอง นักแข่งจักรยานชาวอเมริกัน เป็นผู้ที่ชนะการแข่งขันตูร์เดอฟรองซ์มากที่สุด คือ 7 สมัยติดต่อกัน รองมาคือ มีเกล อินดูเรน (สเปน) ชนะ 5 สมัยติดต่อกัน แบร์นาร์ อีโนล (ฝรั่งเศส) ชาก อองเกอตีล (ฝรั่งเศส) และเอดดี เมิกซ์ (เบลเยียม) ชนะคนละ 5 สมัย



 .

 
ตูร์เดอฟรองซ์ (Tour de France)
ชื่อท้องถิ่นเลอตูร์เดอฟรองซ์
(Le Tour de France)
ภูมิภาคฝรั่งเศสและประเทศใกล้เคียง
วันที่7 ถึง 26 กรกฎาคม (ค.ศ. 2009)
ประเภทStage Race (Grand Tour)
General DirectorChristian Prudhomme
ประวัติ
แข่งขันครั้งแรกค.ศ. 1903 (พ.ศ. 2446)
จำนวนการแข่งขัน96 (ค.ศ. 2009)
ผู้ชนะคนแรกธงชาติของฝรั่งเศส โมรีซ กาแรง
ชนะมากที่สุดFlag of the United States แลนซ์ อาร์มสตรอง (7) ค.ศ. 1999-2005
ผู้ชนะล่าสุดธงชาติของสเปน อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (2009)
Most career Yellow Jerseysธงชาติของเบลเยียม เอดดี เมิกซ์ (96) (111 overall incl. half stages)
ชนะแต่ละช่วงมากที่สุด

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554


เพลงนี้ ชื่อ FUR ELISE มาจากภาษาเยอรมัน แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า FOR ELISE
หรือเรียกง่ายๆคือเป็นเพลงที่ Ludwig Van Beethoven ประพันธ์ออกมาเพื่อ "Elise" นั่นเอง

เพลงนี้เป็นเพลงที่แสดงถึงความรัก ความงดงาม ถ้าให้ผมแสดงความเห็นคือบรรยายถึงสตรีผู้นี้

เริ่มต้นเพลงด้วยตัวโน้ตที่ค่อนข้างซ้ำ เหมือนจะก้าวไปข้างหน้าแต่กลับมาสู่ท่วงทำนองเดิม

น่าจะคล้ายความประหม่า ที่มีความสุขในยามพบ

ท่อนก่อนจบน่าจะเป็นท่อนที่ค่อนข้างลุ้นระทึก ใช้ตัวโน้ตมือซ้ายรัวๆ มือขวาเป็นทางเดินคอร์ดซึ่งซ่อนเร้นทำนองหลักไว้

น่าจะเหมือนกับการพูดอย่างซ่อนเร้นความนัย ด้วยใจที่เต้นอย่างสั่นรัว

อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราอาจจะบอกรักใครสักคนก็ได้นะ ^^

The Bee Gees - How Deep Is Your Love, i started a joke,Massachusetts

บีจีส์
Bee Gees



ข้อมูลพื้นฐาน
แหล่งกำเนิดธงชาติของอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
ธงชาติของออสเตรเลีย บริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
แนวเพลงป็อป ดิสโก้ บลู-อายด์ โซล
ปีค.ศ. 1958ค.ศ. 2003
ค่ายFestival, Polydor, Atco, RSO, Warner Bros., Rhino
เว็บไซต์beegees.com
สมาชิก
แบร์รี กิบบ์
โรบิน กิบบ์
อดีตสมาชิก
มอริซ กิบบ์
โคลิน ปีเตอร์เซน
วินซ์ เมโลนีย์
จีออฟ บริดจ์ฟอร์ด

บีจีส์ (อังกฤษ: Bee Gees) ประกอบด้วยสามพี่น้องตระกูลกิ๊บส์ "มอริซ, โรบิน, แบร์รี" ทั้งสามคนเกิดที่เกาะมาน ประเทศอังกฤษ ช่วงวัยเด็กเล่นดนตรีในคลับเมืองแมนเชสเตอร์ ต่อมาย้ายไปพำนักในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
โดยเริ่มต้นมาจากความสำเร็จในการทำเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "Saturday Night Fever" ยอดขายอัลบั้มรวม 110 ล้านชุด ติดอันดับ 1 ใน 5 งานดนตรีที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์เพลงป็อป เป็นรองก็แต่งานของอภิมหาศิลปินอย่าง “เอลวิส เพรสลีย์” “เดอะ บีเทิลส์” “ไมเคิล แจ็กสัน” และ “พอล แมคคาร์ตนีย์

 

 ประวัติ

สามพี่น้องตระกูลกิบบ์ส "มอริซ, โรบิน, แบร์รี" ทั้งสามคนเกิดที่เกาะมาน ประเทศอังกฤษ โดย มอริซและโรบินเป็นฝาแฝดกัน ปี 2498 สามพี่น้องกิบบ์ เริ่มโตพอที่จะออกตระเวนโชว์ความสามารถตามงานเทศกาล และรายการโทรทัศน์ต่างๆ โดยในช่วงนี้พี่น้องกิบบ์ใช้ชื่อวงหลายชื่ออาทิ “บูลแคตส์” และ “แร็ตเทิ้ล สเน็กส์” จนปี 2501 ต่อมาย้ายไปพำนักในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย พร้อมกับตั้งชื่อวงใหม่ว่า บีจีส์ (Bee Gees) ซึ่งย่อมาจากคำเต็ม ซึ่งคิดขึ้นจากดีเจวิทยุ บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) จากการนำชื่อย่อของเขาเอง และของ บิลล์ กู๊ด (Bill Goode) (ที่เห็นพวกเขาแสดงที่ Speedway Circuit เมืองบริสเบน) -นำมารวมกัน- ดังนั้นจึงไม่ได้ตั้งจำเพาะเจาะจงหมายถึง "Brothers Gibb"ตามความเข้าใจกันส่วนใหญ่
ค.ศ. 1962 บีจีส์เซ็นสัญญาทำอัลบั้มชุดแรก “เดอะ บีจีส์ ซิง แอนด์ เพลย์ 14 แบร์รี่ ซองส์” กับสังกัด“เฟสทีฟเร็กคอร์ด” แต่ไม่ประสบความสำเร็จในออสเตรเลีย ทำให้พี่น้องกิบบ์ตัดสินใจไปประเทศอังกฤษ ต่อมาใน ค.ศ. 1966 ในยุคที่เดอะ บีทเทิลส์โด่งดังเป็นอันมาก พวกเขามีโอกาสได้ร่วมงานกับ “โรเบิร์ต สติกวู้ด” จนมีผลงานชุด “นิวยอร์กไมนิ่ง ดิสแอสเตอร์ 1941” ออกวางตลาดกลาง ค.ศ. 1967 อัลบั้มชุดนี้ติดอันดับบนชาร์ตเพลงยอดนิยมทั้งในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลง “ทูเลิฟซัมบอดี” และมีเพลงฮิตอื่นอย่าง “ฮอลิเดย์” “แมสซาชูเล็ตต์” “เวิดส์” และ “ไอสตาร์ตเต็ดอะโจ๊กส์” เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเพลงของบีจีส์คือ เป็นเพลงป็อปเน้นเสียงประสานด้วยเสียงหลอกบีบเสียงให้สูงผิดธรรมชาติหรือที่ เรียกว่า “ฟอลเซตโต”ส่วนเนื้อเพลงจะมีมุมมองแปลกๆ
แต่แล้วก็เกิดความเห็นที่ไม่ลงรอยกันระหว่างพี่น้องทั้งสามคนจนได้แยกย้ายออกไปมีผลงานเดี่ยว ช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนจะกลับมารวมตัวกันใหม่ใน ค.ศ. 1970 มอริซเข้าไปหลงใหลในแวดวงสังคมคนดัง กับศิลปินซุปเปอร์สตาร์ยุคนั้น เช่น เดอะ บีทเทิ้ลส์,เดวิด โบวี่ และไมเคิล เคน มอริซได้สมรสกับ “ลูลู่” นักร้องเพลงป็อปชื่อดังที่วิวาห์กันใน ค.ศ. 1967 แต่ชีวิตคู่ก็ต้องพังทลายในปี ค.ศ. 1974 จนมาแต่งงานครั้งที่สองกับ “อีวอน สเปนเซอร์ลีย์” โรคติดเหล้าของมอริซจึงดีขึ้น มอริซกลับมาดื่มหนักอีกครั้ง เมื่อแอนดี้น้องชายคนเล็กเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1988 เพราะเสพยาเกินขนาด
ในยุคสมัยดนตรีดิสโก้เฟื่องฟู ชื่อเสียงบีจีส์ขจรขจายไปทั่วโลก ภายหลังปล่อยอัลบั้มประกอบภาพยนตร์ “แซตเทอร์เดย์ไนต์ฟีเวอร์” ที่มีจอห์น ทราโวตา แสดงนำประกอบด้วยเพลง “มอร์แดนอะวูแมน”“สเตอิ้ง อะไลฟ์” “ไจฟ์ ทอล์กกิ้น” ความสำเร็จได้รับการตอกย้ำด้วยอัลบั้ม “สปิริตส์แฮฟวิ่งโฟลว” ปี 2522 ซึ่งมีเพลงอันดับ 1 อย่าง เพลง “ทราจีดี้” ,“ทูมัชเฮฟเวน” และ“เลิฟยูอินไซด์เอาต์” จากนี้เองได้สร้างสถิติทำให้บีจีส์มีเพลงอันดับ 1 ในอเมริกาติดต่อกัน 6 เพลง เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาร์ทเพลงอเมริกา (ซึ่งต่อมาวิทนีย์ ฮูสตันทำได้อีกครั้ง) อัลบั้มชุดนี้ทำยอดขาย 30 ล้านชุดทั่วโลก แต่เมื่อยุคดิสโก้ถึงคราวดับสูญในคริสต์ทศวรรษที่ 1980 แนวดนตรียุคนั้นก็เข้าสู่กระแสของ “พังก์ร็อกและนิวเวฟ” ชื่อเสียงของบีจีส์ก็เงียบตามไปด้วย แต่ก็มีเพลงฮิตบนเกาะอังกฤษในปี พ.ศ. 2530 กับเพลง “ยูวินอะเกน” จากอัลบั้ม อี.เอส.พี. บีจีส์ ประคับประคองชื่อเสียงแบบเสมอตัวได้ต่อมาอีก 20 ปี และออกอัลบั้ม “ดิสอิสแวร์ไอเคมอิน” ค.ศ. 2001 ซึ่งมีเพลงดังอย่าง “อะโลน”
มอริซ กิบบ์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2003

 บีจีส์ในประเทศไทย

ส่วนประเทศไทยเริ่มรู้จักบีจีส์ จากเพลง Melody Fair ในอัลบั้ม ‘Odessa’ ปี 2510 แต่ที่ถือว่าได้รับความนิยมจริงๆ เมื่อวงดนตรี “แกรนด์เอ๊กซ์” นิยมนำไปร้อง และบรรเลงในช่วงที่ยังเล่นดนตรีอยู่ที่แมนฮัตตัน คลับ ในยุคที่ยังมี “จำรัส เศวตาภรณ์” ทำหน้าที่ร้องนำระยะแรก จำรัสร้องเพลงบีบเสียงในสไตล์บีจีส์ แต่ไม่ได้รับการกล่าวขวัญมากนักจนกระทั่งเมื่อจำรัส ลาออกจากวงเพื่อไปทำธุรกิจของครอบครัว และได้ “แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์”เข้ามาเป็นนักร้องนำแทน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แกรนด์เอกซ์ได้ฉายา “บีจีส์เมืองไทย”

[

เพลง Yesterday Once More - The Carpenters

The Carpenters
   วง Carpenters เป็นวงที่มีมานานแล้ว น่าจะพอๆกับวง The BeeGees เลย
สมาชิกของวงนี้ประกอบด้วยสองพี่น้องในตระกูล Carpenter มี 2 คน
คนแรกก็คือ Richard Carpenter
คนที่สองคือก็คือ Karen Carpenter

ทั้งสองพี่น้องในตระกูล Carpenter เริ่มต้นบนถนนดนตรีด้วยการตั้งวงในสไตล์ Trio ร่วมกับเพื่อนซึ่งเป็นผู้เล่นในตำแหน่ง เบสกีตาร์ และเข้าร่วมประกวดวงตนตรีในงาน Hollywood Battle Of The Bands Contest. และพวกเขายังได้รับรางวัลชนะเลิศอีกด้วยหลังจากที่ได้รับรางวัลในครั้งนั้น พวกเขาได้พยายามที่จะพัฒนาวิธีการในการขับร้อง และประสานเสียงให้ดียิ่งขึ้น จนเมื่อพวกเขามั่นใจในผลงานของพวกเขาเองอย่างเต็มที่ จึงได้ส่ง Demo Tapes ไปยังบริษัทแผ่นเสียงต่างๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง Herb Alpert นักดนตรี และผู้ที่มีหุ้นส่วนใหญ่ในสังกัด A&M Records. ได้ฟังผลงานของพวกเขาจึงได้เรียกพวกเขามาเซ็นสัญญาเข้าในสังกัดในรูปแบบของวง Duo ภายใต้ชื่อ The Carpenters. พร้อม ๆ กับการออกซิงเกิ้ลนำร่องเพลงแรก ก็คือ “Close to You” ในปี 1970 ปรากฏว่าเพลงดังกล่าว ได้รับการต้อนรับจากคนฟังอย่างท่วมทัน และกลายเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่นั้นมาจนถึงช่วง กลางทศวรรษ ที่ 70 เลยทีเดียว เพลง Close to You สามารถขึ้นไปอยู่ในอันดับ 1 ในอเมริกา และอยู่อันดับ 6 สูงสุดในประเทศอังกฤษ

พวกเขาเคยมีผลงานที่ได้รับความนิยมมากมายไม่ว่าจะเป็น Bert Bacharach Scott Davis และ Poul Williams. เพลงของพวกเขามีท่วงทำนองที่ไพเราะนุ่มนวลและกลมกลืนอย่างยิ่งของการเรียบเรียงที่เรียกว่า Vocal harmony อันเป็นเอกลักษณ์ที่ยากเลียนแบบได้ของ The Carpenters จากฝีมือของRichard Carpenter


ในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 ผลงานของ The Carpenters ค่อนข้างจะทิ้งช่วงไปนานพอสมควร โดยพวกเขามีผลงานใน Studio ล่าสุดในปี 1977 คืออัลบั้ม Passage ต่อมาอีก 1 ปี ออกอัลบั้มรวมเพลงชุด The Singles 1974 – 1978 หลังจากนั้นอีก 3 ปีจึงมีอัลบั้มชุด Made In America ในปี 1981 ซึ่งถือว่าเป็นชุดสุดท้ายของ Carpenters อย่างแท้จริง


วง Carpenter ได้ยุบตัวลงไปเนื่องจากความวิตกของตัว karen Carpenter ที่เป็นห่วงภาพลักษณ์ของตนเองค่อนข้างมาก เธอจึงใช้วิธีการลดความอ้วน และใช้ยาค่อนข้างมากจนทำให้สุขภาพของเธอเริ่มแย่ลงในระยะหลัง จนเป็นสาเหตุสำคัญในการเสียชีวิตของเธอด้วยสาเหตุโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน อันมีผลมาจากโรคประจำตัวของเธอคือโรค Anorexia (โรคกลัวอ้วน). Karen Carpenter เสียชีวิตในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1983 อย่างไรก็ตามหลังการเสียชีวิตของ karen ในอีก 2 ปีต่อมา The Carpenters ยังคงมีอัลบั้มตามมาอีก 2 ชุด คือ An Old Fashioned Christmas (1984) และชุด Yesterday Once More (1985)

ประวัติของแต่ละคน





1.Richard Carpenterเกิดวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1945 ที่เมือง New Heaven รัฐ Connecticut

ทำหน้าที่เล่นเปียโน, คีย์บอร์ด และร้อง



2.Karen Carpenter
เกิดวันที่ 2 มีนาคม 1950 ที่ New Heaven, Connecticut

เป็นนักร้องนำของวง

ส่วนเพลงที่ดัง ๆ ของ Carpenters คงจะเป็นเพลง “Close to you” และ “Yesterday Once More”

เพลง papa by paul anka

   พอล แองคา
พอล แองคา ปี 2007
พอล แองคา ปี 2007
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อจริงพอล อัลเบิร์ต แองคา
เกิด30 กรกฎาคม ค.ศ. 1941 (69 ปี)
แหล่งกำเนิดออตทาวา รัฐออนแทริโอ แคนาดา
แนวเพลงป็อป
แจ๊ซ
ร็อก
อาชีพนักร้อง
นักแต่งเพลง
ช่วงปี1955 - ปัจจุบัน


พอล อัลเบิร์ต แองคา (อังกฤษ: Paul Albert Anka)เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1941 ในออตทาวา รัฐออนแทริโอ เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง นักแสดงชาวแคนาดา ที่มีเชื้อสายเลบานอน เขาเป็นพลเมืองอเมริกันในปี 1990
แองคา โด่งดังในฐานะทีนไอดอลในช่วงปลายทศวรรษ 1950 และทศวรรษ 1960 เขามีเพลงดังอย่าง "Diana", "Lonely Boy", และ "Put Your Head on My Shoulder" เขายังเขียนเพลงดังที่เป็นที่รู้จักอย่างเพลงธีม The Tonight Show Starring Johnny Carson และเพลงดังของทอม โจนส์ ที่ชื่อ She's A Lady และแต่งเนื้อให้กับเพลงประจำตัวของแฟรงก์ ซินาตรา ที่ชื่อ "My Way"