1. การชูนิ้วชี้และนิ้วก้อยแบบขาร็อค
คนไทยอาจจะเคยเห็นการทำมือเป็นสัญลักษณ์แบบนี้เวลามีการแสดงคอนเสิร์ตเพลงร็อค โดยนำมาจากวัฒนธรรมเพลงแนวเฮวี่เมทัลของอเมริกัน แต่ในประเทศบราซิล โคลัมเบีย อิตาลี โปรตุเกสและสเปนถือว่าเป็นสัญลักษณ์บอกให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่ากำลังถูกคนรักนอกใจหรือสวมเขานั่นเอง
ที่ไทยถ้าทำสัญลักษณ์เขาควายก็มักทำเป็นนิ้วโป้งกับนิ้วก้อย หรือชูนิ้วชี้ทั้งสองข้างไว้บนหัว และในไทยก็ใช้คำว่าถูกสวมเขาแสดงถึงการถูกนอกใจด้วยเช่นกัน และเชื่อหรือไม่คะว่าแม้แต่ในประเทศแถบอาหรับก็ใช้คำว่าสวมเขาเช่นกัน แต่จะกางมือทั้งสองข้างไว้ข้างหูแทน เพื่อแสดงถึงเขากวางที่มีหลายกิ่งค่ะ อู้ววว แรงกว่าของเราอีก
2. การกำมือและชูนิ้วโป้งขึ้นแบบกดไลค์
ความหมายของเราคือดีเยี่ยม ซึ่งเหมือนกับประเทศอังกฤษ เกาหลีใต้ และแอฟริกาใต้ แต่อีกหลายประเทศในโลก ไม่ได้ใช้ในความหมายนี้ค่ะ สำหรับประเทศฝรั่งเศส โปแลนด์และสวิตเซอร์แลนด์ การชูนิ้วโป้งนิ้วเดียวหมายถึงเลข 1
แต่สำหรับประเทศกรีซ รัสเซีย ประเทศแถบละตินอเมริกาและแอฟริกาตะวันตก การทำสัญลักษณ์นี้เป็นการสบประมาทที่ร้ายแรงเหมือนกับการชูนิ้วกลางเลยค่ะ โดยมีความหมายว่าจะยัด...เข้าประตูหลังของอีกฝ่าย ถ้าเผลอทำมีสิทธิโดนรุมตื๊บได้เลย T^T
3. การใช้มือซ้าย
หมายถึงการหยิบจับสิ่งของ ส่ง-รับของกับผู้อื่นโดยใช้มือซ้ายค่ะ ของเราจะใช้มือไหนทำอะไรก็ขึ้นกับความถนัดและความสะดวกใช่ไหมคะ แต่ถ้าไปกลุ่มประเทศมุสลิมหลายๆ ประเทศ การใช้มือซ้ายยื่นรับสิ่งของโดยเฉพาะอาหาร หรือการจับมือเชคแฮนด์ด้วยมือซ้ายเป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่สุดเลยค่ะ เพราะเขามองว่ามือขวาใช้ทำกิจกรรมทั่วไป แต่มือซ้ายใช้ทำความสะอาดร่างกายเท่านั้น โดยเฉพาะหลังทำภารกิจเสร็จในห้องน้ำ ฉะนั้นเมื่อใช้มือซ้ายสัมผัสผู้อื่น หรือสิ่งของระหว่างกันและกันจึงถือว่าสกปรกมาก ฉะนั้นต้องเก็บมือซ้ายไว้ให้ดีตลอดการเดินทางเลยค่ะ แต่ก็น่าสงสารคนถนัดซ้ายเนอะ
4. การทำสัญลักษณ์ OK
แม้วัฒนธรรมอเมริกันที่แพร่หลายจะทำให้การเอาปลายนิ้วโป้งกับนิ้วชี้มาชนกันจนเกิดวงกลม และปล่อยสามนิ้วที่เหลือให้กางออกจะแปลว่าโอเค ตกลง หรือดี แต่สำหรับบางประเทศการทำมือแบบนี้มีความหมายอื่นค่ะ เช่น บางประเทศในทวีปยุโรปแปลว่าเลข 3 ส่วนในจีนแปลว่าเลข 7
ส่วนที่ประเทศบราซิลและประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนจะเป็นคำด่าเทียบเท่ากับ Asshole (เพราะมองว่าวงกลมเป็นสัญลักษณ์ของทวารหนัก) ในเยอรมนีหลายคนใช้แปลว่าเกย์ และยังมีอีกหลายประเทศในแถบยุโรปตะวันออกที่ใช้ด่าว่าคนนั้นไม่มีค่า (เป็นศูนย์) หรือด่าตรงๆ เลยว่าอ้วน ตัวกลมไปหมด ฉะนั้นจะโอเคกันง่ายๆ เหมือนปกติไม่ได้แล้วนะคะ
5. การกางเฉพาะนิ้วโป้งและนิ้วชี้เหมือนตัว L
จะให้นิ้วโป้งอยู่แนวนอนเหมือนตัว L หรือนิ้วโป้งอยู่แนวตั้งแบบ “ถูกต้องนะคร้าบ” ก็ได้ บ้านเราใช้เวลาชี้บางอย่าง หรือบางทีอาจจะทำมือแบบนี้แล้วคว่ำมือลงเพื่อถ่ายรูปให้ดูฮิพฮอพก็ได้ แต่ในสหรัฐอเมริกาและประเทศที่ได้รับอิทธิพลอเมริกันจะมองว่า L มาจาก Loser (คนแพ้) และใช้เป็นสัญลักษณ์ว่าขี้แพ้ ส่วนในจีนหมายถึงเลข 8 และในประเทศเบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์จะแปลว่าเลข 2 (ทีนี้คงนับเลขกันมึนเลย)
สำหรับความหมายแง่ลบของการทำมือแบบนี้พบในประเทศอิตาลีและพื้นที่ข้างเคียง แปลว่าไม่ดี หรือแย่มากค่ะ
6. การกางนิ้วชี้และนิ้วกลางทำเป็นรูปตัว V
นี่เป็นท่าประกอบการถ่ายรูปยอดฮิตของเด็กไทย จะไปไหนก็ขอชูสองนิ้วไว้ก่อน ไม่ได้มีความหมายพิเศษแค่ “น่ารัก” ถ้ากางเฉพาะนิ้วชี้และนิ้วกลางและหันฝ่ามือออกจากตัว สหรัฐอเมริกาและประเทศที่รับอิทธิพลจะมองว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ (Peace Sign) หรือสัญลักษณ์แห่งชัยชนะเพราะเหมือนตัว V ที่มาจาก Victory (ชัยชนะ)
แต่ถ้าหันฝ่ามือเข้าหาตัวขณะทำสัญลักษณ์นี้ แม้ฝั่งอเมริกาจะไม่มีความแตกต่าง และออกจะดูเท่ด้วยซ้ำไป แต่สำหรับสหราชอาณาจักร ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แล้ว ถือว่าเป็นคำด่าระดับชูนิ้วกลางเลยค่ะ ช่วงแรกๆ ที่ท่านี้ยังไม่ดัง คนอเมริกันที่ไปอังกฤษมักจะสั่งเบียร์สองแก้วโดยชูนิ้วในลักษณะนี้ให้ ทำให้โดนคนอังกฤษซ้อมและโยนออกมาจากบาร์หลายคดีเลยทีเดียว ปัจจุบันท่านี้ถือว่าดังสุดๆ แล้ว ทำให้วัยรุ่นอังกฤษเริ่มใช้ในฐานะสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ แต่เพื่อความสบายใจแก่ผู้พบเห็นในประเทศจึงมักกางนิ้วโป้งออกมาด้วยให้เป็น 3 นิ้วแทนค่ะ ส่วนที่อิตาลีนั้นชูเฉยๆ ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ากางนิ้วโดยให้จมูกอยู่ตรงกลางด้วยแล้วจะหมายถึงช่องคลอดและเป็นคำด่าที่ร้ายแรงด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องที่แถบเอเชียชอบใช้ถ่ายรูปโดยไม่มีความหมายอะไรนั้น ตอนพี่ไปอเมริกาก็ถูกสัมภาษณ์เรื่องนี้ด้วยพร้อมกับเด็กไต้หวันและฟิลิปปินส์ และคนสัมภาษณ์ยังตั้งข้อสังเกตถึงขนาดว่าบางประเทศชู
2 มือ บางประเทศมือเดียว บางประเทศไว้ติดกับใบหน้าแต่บางที่นิยมชูสุดแขนมาข้างหน้าหรือเหนือศีรษะ ซึ่งพวกเราก็งงมาก เพราะทุกคนตอบว่าแล้วแต่อารมณ์และสถานการณ์ที่ถ่ายว่าแบบไหนจะสวยกว่า ไม่ได้จริงจังว่าแต่ละท่าสื่อถึงอะไร สรุปแล้วเด็กเอเชียทุกคนตอบว่ามันน่ารักเฉยๆ ไม่มีอะไรลึกซึ้ง555 คนสัมภาษณ์เหวอเลย
7. การหงายฝ่ามือและกระดิกนิ้วชี้เรียก
เรามักเห็นในภาพยนตร์ฝรั่งว่าถ้าสาวสวยกระดิกนิ้วเรียกในลักษณะนี้แล้วมักเป็นการเชิญชวนและยั่วยวนอีกฝ่ายให้ตามไป หรือเป็นการส่งสัญญาณให้เข้ามาใกล้ๆ เพื่อกระซิบบอกความลับบางอย่าง แต่สำหรับชาวฟิลิปปินส์นั้น ท่าทางนี้ใช้เรียกน้องหมาเท่านั้นค่ะ ฉะนั้นถ้าเผลอไปทำใส่ใครจะเหมือนไปว่าเขาเป็นสุนัข และอีกฝ่ายอาจจะโกรธถึงขั้นหักนิ้วชี้เราได้เลยค่ะ โหดแฮะ
8. การชูนิ้วชี้
การชูนิ้วชี้ตั้งขึ้นเพียงนิ้วเดียว เรามักหมายถึงเลข 1 การบอกอีกฝ่ายให้หยุด หรือรอสักครู่ แต่ถ้าไปทำท่านี้ในประเทศแถบอาหรับหรือแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจะมีความหมายเท่ากับการชูนิ้วกลางนิ้วเดียวให้อีกฝ่ายค่ะ
9. การดีดนิ้ว
การดีดนิ้วดังเป๊าะนั้น ถ้าดีด 1 ครั้ง คนอเมริกาและอังกฤษจะสื่อว่านึกอะไรออกแล้ว หรือมีไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมาในหัว ส่วนการดีดเรื่อยๆ ไปมาหมายถึงกำลังพยายามนึกบางอย่างให้ออกอยู่ แต่สำหรับประเทศแถบละตินอเมริกานั้นหมายความว่าให้คนข้างหน้าช่วยรีบเดินเร็วๆ หน่อย แต่สำหรับประเทศส่วนใหญ่ในโลกการดีดนิ้วใส่หน้าคนอื่นเป็นกิริยาที่หยาบคายมากค่ะ (แต่บางประเทศก็หมายถึงดึงความสนใจอีกฝ่ายให้กลับมา)
10. การแบมือทั้งห้านิ้วโดนหันฝ่ามือออก
โดยทั่วไปแล้วถ้าเรายื่นมือออกไปโดยกางนิ้วทั้งห้าออกและหันฝ่ามือใส่อีกฝ่ายจะเป็นการบอกให้หยุด หรือตามธรรมเนียมอเมริกันคือการแสดงความไม่สนใจในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูดและให้อีกฝ่าย“พูดกับมือ” แทน ซึ่งก็ค่อนข้างจะแสดงความไร้มารยาทแล้วใช่มั้ยคะ แต่ที่ประเทศกรีซแรงกว่านั้นอีกค่ะ เพราะมันหมายถึงให้ไปตายซะ
ก็พอรู้กันแล้วนะคะว่าภาษาท่าทางที่ใช้มือเป็นสำคัญนั้นมีหลายความหมายแตกต่างกันไปทั่วโลก จริงๆ มีอีกหลายแบบเลยนะคะ รวมไปถึงการแสดงออกทางสีหน้าและแววตาด้วยที่ให้ความหมายต่างกัน ฉะนั้นก่อนจะเดินทางไปประเทศใดให้หาข้อมูลเรื่องพวกนี้ดีๆ ค่ะ ใครจะรู้ว่าการยิ้มสวยๆ ของเราที่ดูเป็นสิ่งที่ดีนั้น อาจแปลว่าเรากำลังท้าทายคนบางประเทศอยู่ก็ได้