วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ

นักท่องเที่ยวทั่วโลก ต่างรู้ดีว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของโลก เมื่อเทียบในแง่ ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ถูกกว่าเมืองชื่อดังอื่นๆ ทั่วโลก หรือจะเป็นวัฒนธรรม และสถาปัตกรรมที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้ต้องมาสัมผัส แต่ยังอีกเหตุผลแตกต่างจากนี้อีก ที่ทำให้ กรุงเทพฯ มีอะไรพิเศษมากกว่าเมืองไหนๆ ในโลก โดย cnn.com ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ 50 เหตุผล ความเป็น กรุงเทพฯ ในสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ออกมา แล้วผู้อ่านชาวไทย ก็จะรู้ว่าเหตุผลเหล่านี้ น่าแปลกใจสำหรับพวกเขาอย่างไร?
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ

1. พระมหากษัตริย์ทรงพระปรีชาสามารถที่สุด
ถึงแม้ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงโปรดประทับนอกกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองเสียเป็นส่วนใหญ่ ชาวไทยก็ยังคงเทิดทูนพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นยิ่งกว่าเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนมากว่า 60 ปี พระองค์เสด็จพระราชสมภพ ณ เมืองแคมบริดจ์ ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ทรงเข้ารับการศึกษา ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พระองค์ตรัสได้หลายภาษา และทรงมีสิทธิบัตรทางด้านการเกษตรกรรมหลายใบด้วยกัน ทรงมีพระราชอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์ศิลปะด้านดนตรีและการบรรเลงเพลงแจ๊ซ นอกจากนั้นยังทรงต่อเรือใบด้วยพระองค์เอง รวมทั้งทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้านการวาดภาพและถ่ายภาพด้วย พระองค์ยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์แรกของโลกที่ทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติยศด้านการพัฒนาของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ และที่สำคัญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชยัง ทรงเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลกอีกด้วย

2. พระพุทธรูปที่มีประวัติน่าทึ่งที่สุด
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
ในปี พ.ศ. 2498 ผู้รับเหมาก่อสร้างทำพระพุทธรูปองค์นึงตกจนทำให้ปูนที่เคลือบองค์พระสมัยสุโขทัยหนัก 5,000 กิโลกรัม กระเทาะออกมาเผยให้เห็นว่าใต้นั้นแท้จริงแล้วเป็นทองคำล้วนๆ แต่มีผู้นำปูนมาเคลือบองค์พระพุทธรูปเอาไว้เพื่อเป็นการตบตาชาวพม่าที่เข้ามารุกรานอาณาจักรไทย วัดแห่งนี้มีชื่อว่า วัดไตรมิตรวิทยาราม ที่เพิ่งได้รับการปฏิสังขรณ์จนแล้วเสร็จเมื่อไม่นานมานี้

เลขที่ 661 ถ. ไตรมิตร ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ ใกล้ๆ สถานีรถไฟหัวลำโพง โทรศัพท์ 02-5099091 begin_of_the_skype_highlighting 02-5099091 FREE end_of_the_skype_highlighting


3. เมืองของแท้และดั้งเดิมต้องชื่อยาว
ถึงคนไทยจะเรียกว่ากรุงเทพฯ แต่ชื่อเต็มๆ ของกรุงเทพฯ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรีทรงตั้งให้ คือ กรุงเทพมหานคร อมรรัตรโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลก ภพนพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์ ถ้าต้องเขียนเต็มๆ มีหวังมือหงิกกันไปข้างหนึ่งล่ะ

4. พระบรมมหาราชวังที่หรูหราที่สุด
บนพื้นที่กว้าง 152 ไร่ของพระบรมมหาราชวัง นั้นเต็มไปด้วยฉัตรและกำแพงปิดทองกับภาพวาดอันวิจิตรบรรจง รวมทั้งรูปแกะสลักและรูปหล่อโลหะที่ละเอียดลออ ในสมัยก่อนนั้น พระบรมมหาราชวัง เคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทย แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ ไปแล้ว ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปอย่าลืมเดินชมจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลกเรื่อง รามเกียรติ์ บนกำแพงคดรอบอุโบสถให้ได้นะ

5. รถเข็นขายอาหารเปิบพิศดารสารพัดชนิด
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
นับวันกิตติศัพท์ของรถเข็นขายอาหารข้างถนนในกรุงเทพฯ ก็ยิ่งแหวกแนวขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้ลิ้นเป็ดย่างกับซุปรังนกถือว่าเอ้าท์ไปแล้ว ถ้าคุุณมีโอกาสได้ไปถนนแพร่งภูธรที่อยู่ไม่ไกลจากเสาชิงช้าและเยาวราชนัก อย่าลืมไปชิมเกาเหลาสมองหมูที่อร่อยเหลือเชื่อดู… ถ้าคุณลืมๆ ไปได้นะว่ามันคือเกาเหลาสมองหมู

6. รีบมาดูก่อนที่จะไม่มีให้ดู
เพราะ กรุงเทพฯ ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ราบลุ่ม และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่สูงจากระดับน้ำทะเล เพียง 6 ฟุต ดังนั้นเมืองนี้จึงกำลังค่อยๆ จมลงไปในโคลนปีละ 3 นิ้ว ตามข้อสันนิษฐานของนักวิทยาศาสตร์ ก็เหมือน สืบ นาคะเสถียรกับเรวัต พุทธินันทน์ไง ถ้าเราไม่อยู่เมื่อไหร่ คุณจะคิดถึงเรา

7. มีนักศึกษาชาวอังกฤษผิวไหม้แดดเต้นรำกลางถนน กับนักธุรกิจสาวชาวแอฟริกันที่ กำลังกรึ่มๆ ได้ที่ มีให้ชม ในขณะที่คุณกำลังเขมือบแซนด์วิชฟาลาเฟลแกล้มเบียร์ลาว
ถนนข้าวสาร ที่มีชื่อ(เสีย) ยังคงครองตำแหน่งเป็นแหล่งนั่งดูคนเพี้ยนทุกเชื้อชาติ อายุ สีผิว อาชีพ ระดับการศึกษา ที่มาพร้อมกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ลองไปนั่งเล่นริมฟุตบาทหน้าบัดดี้บาร์ ตีซี้กับขาร็อคชาวกรุงที่แห่กันมานั่งดื่มหลังเลิกงานดูสิ

8. ร้านขายโปสเตอร์หนังที่เจ๋งที่สุดในเอเชีย
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
ร้านเล็กๆ แห่งนี้เป็นแหล่งรวมโปสเตอร์หนังน่าสะสมทั้งใหม่และเก่าจากฮอลลีวู้ด ถ้าไม่เห็นคุณสันติเจ้าของร้านดูแลลูกค้านักสะสมจากทั่วเอเชียอยู่หน้าร้าน แล้วล่ะก็ แปลว่า เขากำลังท่องอินเตอร์เน็ตตามล่าโปสเตอร์หนังหายากอยู่ เจ๋งโคตร! โปสเตอร์สตาร์วอร์สภาคภาษาไทยของแท้, อะโพคาลิปส์ นาว, และเดอะ เกรท เอสเคพ
เลขที่ 236/6-7 สยามสแควร์ซ. 2 ถ. พระราม 1(ข้างโรงหนังลิโด้)

9. ย่านโคมแดงที่ไม่รู้จะแดงอะไรนักหนา
พัฒน์พงศ์ ก็มีแต่นักท่องเที่ยว ซอยนานาก็ทั้งใหญ่ทั้งวุ่นวาย แต่ว่าซอยคาวบอยนั้น (บีทีเอสอโศก เอ็มอาร์ทีสุขุมวิท) ใหญ่พอที่คุณจะหาความสำราญได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะพลัดหลงกับเพื่อนๆ แสงไฟจากหลอดนีออนส่องสว่างลอยมาแต่ไกล และการชนแก้วกับหนุ่มๆ ที่นี่ อาจจะทำให้ค่ำคืนนั้นของคุณ เป็นคืนที่มีคนจำได้แค่ไม่กี่คนแต่รับรองว่า ไม่มีวันลืมแน่นอน

10. ได้นั่งเล่นกับอาแปะ ดูคนแก่เถียงกัน, จั่วไพ่, สูบบุหรี่, จับนก, สูบบุหรี่, จิบกาแฟ, ขากถุย, แล้วก็สูบบุหรี่
ร้านกาแฟเอี๊ยะแซ บนถนนพาดสายในย่านเยาวราช เปิดกิจการมาแล้ว 60 ปี รสชาติกาแฟก็ไม่ได้กลมกล่อมอะไรหรอก แต่ความเอะอะมะเทิ่งของบรรดาลูกค้าต่างหาก ที่สามารถให้ความบันเทิงคุณได้ หลายต่อหลายชั่วโมง ลองยกแก้วชนกับอาแปะโต๊ะข้างๆ ดู คุณอาจจะได้ฟังเรื่องเล่าสมัยหนุ่มๆ ตั้งแต่แถวนั้นยังฝุ่นตลบและมีรถรางวิ่งขวั่กไขว่ก็เป็นได้

11. เคาน์เตอร์ขายอาหารแสนอร่อยที่ไม่เคยปิด
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
ร้านอาหารถูกและดี ที่อยู่ในฟู้ดแลนด์ สาขาสุขุมวิทซอย 5 เหมาะสำหรับการมานั่งทานมื้อเช้า มื้อเที่ยง และมื้อถอนตอนตี 4 เป็นที่สุด ข้าวกระเพราไก่ของเขาจะติดตราตรึงลิ้นคุณไปนานพอๆ กับเพื่อนร่วมเคาน์เตอร์ที่นั่งข้างๆ คุณนั่นเลยทีเดียว
เลขที่ 87 ตึกนายเลิศ ซ. 5 ถ. สุขุมวิท โทรศัพท์ 02-254-2179 begin_of_the_skype_highlighting 02-254-2179 FREE end_of_the_skype_highlighting

12. ตลาดนัด ที่มีของขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ
อย่าเพิ่งโม้ว่าตัวเองเป็นนักช้อปตัวยง ถ้าคุณยังไม่สามารถเดินซื้อของที่ ตลาดนัดจตุจักร ได้แบบเนียนๆ เพราะมันคือ เขาวงกต ที่เต็มไปด้วยซอกเล็กซอยน้อยบนพื้นที่ 68 ไร่ ที่มีขายทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้ สัตว์เลี้ยงจากทั่วทุกมุมโลก ผลงานศิลปะ หนังสือการ์ตูนเก่า ของเก่า ต้นไม้และเสื้อผ้าจากทุกยุคตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

13. จุดชมพระอาทิตย์ตกดินเหนือมนุษย์ตัวกระจิริด
ภัตตาคารซีร็อคโค่ ที่ตั้งอยู่บนตึกสเตททาวเวอร์สูง 64 ชั้นบนถนนสีลม เปิดให้คุณชมกรุงเทพฯ ได้เกือบ 360 องศา ถ้าช็อคโกแล็ตมาร์ตินี่แก้วละ 400 บาท จากบาร์ที่มีแสงไฟสีพาสเทลเรืองรองยังไม่สะใจล่ะก็ คุณยังสั่งไวน์โรมานีก็องติมาจิบเล่นๆ ได้ในราคาแค่ขวดละ 600,000 บาท แต่สำหรับคนที่กลัวความสูง ขอแนะนำว่าอย่าไปยืนเกาะขอบเป็นดีที่สุด เพราะเลยจากกระจกกั้นสูง 4 ฟุตไปแล้วนั้น คือ อากาศธาตุล้วนๆ เลย
ตึกสเตททาวเวอร์ เลขที่ 1055 ถ. สีลม โทรศัพท์ 02-624-9999 begin_of_the_skype_highlighting 02-624-9999 FREE end_of_the_skype_highlighting

14. พริตตี้ที่นี่ขายได้ทุกอย่าง
ตั้งแต่โปรโมชั่นเบอร์เกอร์คิง ถึงบัตรผ่านประตูงานวัด ยันของแถมในเซเว่นอีเลเว่น บรรดาพริตตี้สาวในชุดรัดติ้วหลากสีจะมายืนประกบให้คุณสนใจของที่เธอเร่ขาย ถ้าคุณ… นี่! สนใจหน่อยสิ ฉันสวยนะ!

15. ชื่อธุรกิจที่เห็นแล้วต้องขำกลิ้ง
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
จริงอยู่ที่ว่าประเทศญี่ปุ่น เป็นตลาดหลักของภาษาอังกฤษวิบัติ แต่เมืองไทยเราแย่งตำแหน่งเขามาหน้าตาเฉย ตัวอย่างมีให้เห็นตั้งแต่ “แฮร์ซาลูน” จนถึง “อิงลาชโปรแกรม” และอีกหลายชื่อที่เราไม่สามารถพิมพ์ออกอากาศบนเวปไซต์ทั่วไปได้ งานนี้ใครอยากบริหารเหงือกต้องใส่ตาสัปปะรดกันเอาเอง

16. สเต็กที่ทานแล้วกระเป๋าแฟ่บไปหลายวัน
ใครๆ ก็ย่างเนื้อวัวชิ้นนึงได้ แต่ถ้าพูดถึงในเอเชียแล้ว มีไม่กี่ร้านที่มีฝีมือเท่าห้องอาหาร นิวยอร์ค สเต็กเฮ้าส์ ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมเจดับบลิวแมริอ็อทส์ แน่นอนว่าราคาย่อมไม่ธรรมดาเช่นกัน แต่ถ้าได้ชิมซักครั้งรับรองได้ว่า คราวหน้าที่ทานแม็คโดนัลด์ท้องไส้คุณต้องปั่นป่วนแน่ๆ
เลขที่ 4 ถ. สุขุมวิท ซ. 2 โทรศัพท์ 02-656-7700 begin_of_the_skype_highlighting 02-656-7700 FREE end_of_the_skype_highlighting

17. กรุงเมกกะของนักช้อปกระเป๋าตุง
ทำไมชาวต่างชาติ ถึงต้องถ่อขึ้นเครื่องบินมาซื้อเสื้อเชิ๊ตกุชชี่ของแท้ที่ราคาเท่ากัน หรือไม่ก็แพงกว่าบ้านเขาถึงกรุงเทพฯ เราก็ไม่อาจทราบได้ และมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ว่าไฮโซบ้านเมืองนี้ชอบซื้อของแบรนด์เนมกันอยู่แล้ว ถึงแม้ชั้นล่างสุดของศูนย์การค้าสยามพารากอน (บีทีเอสสยาม) จะมีแต่ร้านอาหารและเด็กวัยแตกพาน แต่อีก 4 ชั้นที่เหลือ เต็มไปด้วยสินค้าราคาแพงระยับ ตั้งแต่รถสปอร์ตลัมบอร์กินี่ไปจนถึงเครื่องเสียงยี่ห้อแม็คอินทอชเลย

18. พนักงานต้อนรับแสนขยัน (ไปมั้ย) ในห้องน้ำ
คุณผู้ชายที่ไปเข้าห้องน้ำ ในสถานที่เที่ยวกลางคืนอาจจะเหวอได้ เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสแนบแน่นจากมือแข็งแรงคู่นึงบนไหล่ทั้ง 2 ข้าง อย่าเพิ่งหันไปตั้งการ์ดนะ เขาเป็นแค่พนักงานต้อนรับในห้องน้ำ ที่มีหน้าที่เอาผ้าร้อนมาประคบไหล่แล้ว บีบนวดให้คุณแลกกับทิปเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าคิดว่ารับไม่ได้จริงๆ ก็แค่บอกไปว่า “ไม่เอาครับ ขอบคุณ” ก็พอ

19. อาหารตะวันออกกลางอร่อยๆ นอกตะวันออกกลาง
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
กรุงเทพฯ เป็นเบ้าหลอมขนาดใหญ่ของวัฒนธรรมดิบ และสิ่งที่มากับวัฒนธรรม นั้นก็คือ อาหารนั่นเอง ในซอยสุขุมวิท 3/1 (บีทีเอสนานา) มีร้านอาหารตะวันออกกลางที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังตั้งเรียงรายรอคุณอยู่
สาวชาวมุสลิม กับแฟชั่นนิสต้าชาวไนจีเรีย เดินปะปนกับคนขายไฟเลเซอร์ และน้ำหอมจากอาหรับ ขนมปังอุ่นๆ ชิ้นเท่าพวงมาลัยรถที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นจากเตาไม้ เหมาะจะฉีกมาตักทานกับฮัมมัส และทาฮินี่ที่เพิ่งทำสดๆ ที่สุดแล้ว.

20. มีวิธีที่คิกขุที่สุดในการสกัดกั้นฮอร์โมนของวัยรุ่น
ลองไปเดินเล่นแถวๆ ที่วัยรุ่นชอบไปกันในวันวาเลนไทน์ดู แล้วคุณจะเห็นว่ามีตำรวจเยอะกว่าปกติ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพื่อสอดส่องไม่ให้เด็กๆ วัยกลัดมันทำอะไรมากไปกว่าการเดินจูงมือกัน เพราะห้างสรรพสินค้าเตรียมเก้าอี้ไว้ให้พวกเขานั่งจู๋จี๋กันอยู่แล้ว

21. นั่งทานอาหารท่ามกลางวัตถุโบราณ ที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 20
ค่ำคืน ที่ทูบาในซอยเอกมัย นั้นไม่ต่างจากการไปงานปาร์ตี้ห้องใต้หลังคาบ้านคุณยายเลย ที่นี่มีทั้งงานกระจกสีโบราณ สัญลักษณ์ของป๊อปคัลเจอร์ในยุค 50 และเฟอร์นิเจอร์รูปร่างแปลกๆ ที่ช่วยแต่งเติมมุมมืดอับ แต่ละมุมในร้านให้มีเอกลักษณ์ขึ้นมา ข้อดีของที่นี่ก็คือ ของทุกอย่างในร้านมีไว้ขาย
เลขที่ 11-12เอ ซ. เอกมัย 21 สุขุมวิท 63 โทรศัพท์ 02-711-5500 begin_of_the_skype_highlighting 02-711-5500 FREE end_of_the_skype_highlighting

22. ระบบขนส่งมวลชนที่ราคาถูกและน่าตื่นเต้น
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
ถึงแม้จะไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ข้อดีของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ คือ ราคาที่ถูกแสนถูก ค่าโดยสารเรือคลองแสนแสบ 8 บาท ค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาและรถเมล์ 16 บาท ค่าแท็กซี่มิเตอร์เริ่มต้นที่ 35 บาท ค่ารถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน 40 บาทตลอดสาย (ในปัจจุบันน่าจะขึ้นค่าโดยสารแล้วมั้ง) การต่อราคาค่าโดยสารรถตุ๊กๆ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และการต่อรถนั้นก็ซับซ้อนจนทำให้ผู้เข้าแข่งขัน “ดิ อเมซซิ่งเรซ” ต้องยกธงขาวยอมแพ้มาแล้ว
รถมินิบัสร่วมบริการหรือตีนผี ประจำเยาวราช มักจะออกอาละวาดตามหัวโค้งต่างๆ พร้อมกระเป๋ารถที่โหนประตูรถด้วยมือข้างเดียวให้เสียวเล่น แน่นอนว่ามันไม่ใช่การเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด แต่เราเอาหัวเป็นประกันได้ว่าไม่ธรรมดาแน่ๆ

23. ปาร์ตี้ที่ย้อนยุคไปอยู่ในปีพ.ศ. 2532
วงที่เล่นประจำที่ร็อคผับ ติดกับสถานีบีทีเอสราชเทวี เขาเล่นเพลงคลาสสิคตั้งแต่ กันส์แอนโรสเซส, วอร์แรนท์, ออสซี่, และไอรอนเมเด้น ได้สะใจโก๋หลังวังจริงๆ ไม่ต้องเขิน…คว้ากางเกงหนังมาใส่ คาดแว่นกันแดดทรงนักบินแล้วเดินชูมือขวาเข้าไปเลย
ตึกฮอลลีวู้ดสตรีท ถ. พญาไท บีทีเอสราชเทวี โทรศัพท์ 02-251-9980 begin_of_the_skype_highlighting 02-251-9980 FREE end_of_the_skype_highlighting

24. เทรนด์ใหม่ล่ามาแรงเกินกว่าสมองจะรับได้
ช่วงวันหยุดตามซอกเล็กซอยน้อยของสยามสแควร์ (บีทีเอสสยาม) จะเต็มไปด้วยวัยรุ่นที่แต่งตัวได้ทันสมัย และแรงจัดเหมือนเพิ่งกระเด็นออกมาจากหนังสือโว้ค เทรนด์ฮิตอาทิตย์นี้ รองเท้าส้นสูงเสียดฟ้า, แว่นตาไร้เลนส์, และผมทรงรังนกที่เห็นแล้วทำให้นึกถึงมาม่าบลูส์ขึ้นมาตะหงิดๆ พวกคุณว่าไง? คันมือคันเท้ามั้ย?

25. นักการเมืองที่แรงได้ใจสุดๆ
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
ไม่มีใครดุดันเท่า ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เจ้าพ่ออาบอบนวดที่ผันตัวมาเป็นนักการเมืองแล้ว หลังจากโดนอุ้ม เขาก็ขู่ว่าจะแฉรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับส่วยจากเขาต่อหน้านักข่าว ถึงแม้ชูวิทย์จะสอบตกในการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ถึง 2 สมัยติดกัน เขาก็ยังไม่วายทำให้เหล่าผู้ทรงอิทธิพลต้องปาดเหงื่อ เมื่อโดนขู่ว่าจะเอาเทปลับจากกล้องวงจรปิดมาเปิดเผย นอกจากนี้เราอาจจะได้เห็นป้ายหาเสียงกับหน้าตาขึงขังของเขา

26. สามารถคืนกำไรให้สังคมได้อย่างง่ายๆ
เรามีองค์กรการกุศลดีๆ อยู่ในกรุงเทพฯ หรือไม่ก็มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ มากมาย แต่ด้วยอุปสรรคทางด้านภาษาและการจัดการที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจึงอาจจะทำให้หายากไปซักหน่อย แต่ไม่เป็นไร เพราะว่านักเขียนบล็อกชาวกรุงนาม ดไวท์ เทอร์เนอร์ ได้ทำการคัดสรรเอาไว้ให้คุณแล้ว

27. ทานอาหารได้โดยไม่ต้องใช้มือ
ถ้าคุณเกิดขี้เกียจ…ขี้เกียจสุดๆ เลยนะ…สาวๆ มือขยันที่ร้าน “โนแฮนด์ส เรสเตอรองต์” (มีหลายร้านในกรุงเทพฯ) จะมาป้อนอาหารให้คุณเอง คุณจะได้เอามือไปทำอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าได้ อย่างเช่น ยกแก้วเบียร์ หรือเล่นเกม PSP ไง
เลขที่ 19 ถ. พระราม 4 สี่พระยา โทรศัพท์ 02-235-5000 begin_of_the_skype_highlighting 02-235-5000 FREE end_of_the_skype_highlighting

28. พบกับอาหารอร่อยๆ ในที่ที่คุณคาดไม่ถึง
ห้างพันธุ์ทิพย์ คือ ตึกทรงโรมันโทรมๆ ที่เป็นแหล่งรวมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกชนิด ที่นี่มีศูนย์อาหารที่อร่อยมากอยู่บนชั้น 3 เราขอแนะนำให้ลองชิมข้าวซอยไก่ (ไก่กับบะหมี่ไข่ในน้ำแกงกะทิรสกลมกล่อม) ที่คนขายเป็นป้าแก่หน้าบึ้งๆ นั่นแหละ
เลขที่ 604/3 ถ. เพชรบุรี บีทีเอสชิดลม โทรศัพท์ 02-250-9008 begin_of_the_skype_highlighting 02-250-9008 FREE end_of_the_skype_highlighting

29. กีฬาที่ผสมผสานกับกายกรรมระดับโลก
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
ถ้าคุณไม่เคยเห็นคนตีลังกาเตะลูกบอลสาน แปลว่าคุณยังไม่เคยดูตะกร้อ อุทยานเบญจสิริ (บีทีเอสพร้อมพงษ์) ในช่วงบ่ายแก่ๆ เป็นสถานที่ที่เหมาะมากในการนั่งชมลีลาเด็ดๆ ถ้ายังนึกไม่ออก ให้ลองจินตนาการภาพเฉินหลงโดนจับมัดมือไพล่หลังเล่นวอลเลย์บอลดู

30. หน้าพิซซ่าที่ทำเอาชาวอิตาเลี่ยนจุกไปเลย
คนไทยสรรหาของมาโรยหน้าพิซซ่าได้เก่งมาก นอกจากปกติที่ทานคู่กับซอสมะเขือเทศแล้ว หน้าพิซซ่ายอดนิยมได้แก่ ปลาหมึก, ข้าวโพด, แกงเขียวหวาน, มายองเนส, บร็อคโคลีและน้ำสลัด ก็แปลกใหม่ดีนะสำหรับนักทาน แต่ถ้าคุณชอบแบบดั้งเดิมล่ะก็ ลองแวะไปที่รอนนี่ส์ นิวยอร์ค พิซซ่าในสุขุมวิทซอย 4 ดู พยายามสั่งพิซซ่าหน้าใหม่ๆ ให้เขาอบกันสดๆ แล้วประสาทรับรสของคุณจะตื่นในทันที

31. ตลาดนัดกลางคืนที่แนวที่สุด
ลืม พัฒน์พงษ์ กับ สวนลุมไนท์ ที่มีแต่เจ้าของร้านหน้ามึน เพราะโดนต่อราคาไปเถอะ มาสัมผัสรสชาติการช้อปปิ้งแบบไทยๆ ที่ ตลาดรัชดาไนท์ ตรงสถานีเอ็มอาร์ทีลาดพร้าว กันดีกว่า ตลาดแห่งนี้มีขายทั้งเครื่องพิมพ์ดีดเก่า รถเวสป้าแต่งใหม่ เสื้อผ้าฮิปๆ และของแต่งห้องเก๋ๆ ที่วางเรียงรายอยู่เบื้องใต้หลอดไฟกลมเหนือศีรษะ ให้คุณได้เลือกซื้อ

32. มีป้านักฟังเพลงที่เท่ห์ที่สุดในโลก
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
ร้านขายซีดีโดเรมี ที่ตั้งอยู่มุมในสุดของสยามสแควร์ซอย 11 เป็นของคุณป้าที่มีหัวใจเป็นเสียงเพลง และรู้จักศิลปินทุกคนตั้งแต่ บิลลี่ ฮอลลิเดย์, เดอะแคลช, จนถึงกรีนเดย์ ร้านเล็กๆ ของป้าโดเรมีเต็มไปด้วยแผ่นซีดีเพลงจากทั่วทุกมุมโลก ถ้าคุณอยากฟังอะไรใหม่ๆ ล่ะก็…บอกได้ เดี๋ยวป้าจัดให้
เลขที่ 422/6 สยามสแควร์ซอย 11

33. ทันใจไม่สิ้นเปลือง
มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผู้ซื่อสัตย์ในเสื้อกั๊กสีส้มแปร๋น สามารถช่วยงานคุณได้สารพัด ตั้งแต่ส่งของ, จ่ายค่างวด, ส่งจดหมาย, ไปรับเพื่อน, นำทางแท็กซี่ที่พาคุณหลงจนคลำทางกลับบ้านไม่ถูก พวกเขาทำได้แทบทุกอย่างที่คุณต้องการ หลังจากต่อรองราคากันจนเมื่อยมือ ดีตรงไหนน่ะเหรอ…คุณไม่ต้องฝ่ารถติดเองไง

34. เครื่องแบบนักศึกษาที่หดหายไป
ช่วงเดือนกันยายนของทุกปี นักข่าวจะทำข่าวเดิมๆ เกี่ยวกับชุดนักศึกษาหญิงที่หดลงเรื่อยๆ กระโปรงสั้นกุด, เสื้อคับติ้ว นักอนุรักษ์นิยมเขาออกมาด่าปาวๆ ส่วนเราก็คงได้แค่นั่งมองตาถลน แต่จะว่าไปเวลาเห็นนักศึกษาต้องเดินหันข้างขึ้นบันได เพราะถ้าเดินขึ้นตรงๆ จะโป๊แล้วเนี่ย ก็ทำให้รู้สึกว่าเจ๊เบียบเขาก็มีเหตุผลเหมือนกันแฮะ

35. ศูนย์รวมความสบายที่เอื้อมถึง
แม่บ้าน คอร์สทำเล็บ คอร์สนวดตัว เสื้อผ้าสั่งตัดและคนขับรถ ทั้งหมดนี้คุณสามารถซื้อหาได้ด้วยเงินเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตอนอยู่ต่างประเทศ ชาวต่างชาติพึงสังวรณ์ : เพื่อนคุณไม่อยากได้ยินหรอกนะว่า คุณซักผ้าไม่เป็นหรือลืมวิธีขับรถเกียร์กระปุกไปแล้ว

36. โรงภาพยนตร์ที่สบายที่สุด
เดี๋ยวนี้ โรงภาพยนตร์ใหม่ๆ ในกรุงเทพฯ มีที่นั่งสุดหรูให้บริการในราคาเท่าที่นั่งธรรมดาของเมืองนอกเลย เขาจัดมาให้ทั้งเบาะกำมะหยี่ปรับเอนนอนได้ หมอน, ผ้าห่ม แถมยังมีเครื่องดื่มฟรีอีก โรงที่ดีที่สุดในตอนนี้เห็นจะเป็นโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ในศูนย์การค้าสยามพารากอน แต่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าพนักงานของโรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิลด์ซีเนม่า ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์นั้นบริการดีกว่า

37. หนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ได้ในพริบตา
ใครๆ ก็รู้ว่า พระประแดง เป็นปอดของกรุงเทพฯ เพราะตั้งอยู่ตรงโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาพอดี เทศบาลเมืองพระประแดงจึงกำหนดพระราชบัญญัติขึ้นมาว่า ห้ามสร้างตึกสูงเกิน 3 ชั้น โครงสร้างพื้นฐานของที่นี่ จึงโดนสงวนไว้ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2490 ทางเดินฉาบปูนกับป่าชายเลนหนาทึบทั่วบริเวณ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักปั่นจักรยานมาก คุณว่าน่าขนลุกมั้ยล่ะที่ขนาดอยู่ในป่าทึบ แสงไฟจากในเมืองและตึกระฟ้ายังตามมาหลอนได้อยู่เลย

38. ชอบอาหารสดใช่มั้ย เอาไปเลย
ตลาดสดคลองเตย ที่แสนวุ่นวาย ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่น, ภาพ, เสียง, และผู้คน รถเข็นสินค้าของสดวิ่งกันขวั่กไขว่ ซึ่งหลายอย่างเพิ่งส่งตรงมาจากไร่ สวนและทะเล เสียงพ่อค้าแม่ขายตะโกนคุยกันเอง และคุยกับลูกค้าดังโหวกเหวก นอกจากนั้นตลาดแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์เมอร์ซี่ และที่พำนักของหลวงพ่อโจ บ้านสำหรับเด็กเร่ร่อน เด็กกำพร้า บ้านพักแม่และเด็ก และโรงเรียนสอนเด็กสลัมอีกด้วย

39. วิธีฟิตกล้ามที่สร้างสรรค์ที่สุด
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
ถึงสถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้งในสวนลุมพินี (เอ็มอาร์ทีลุมพินี) จะเต็มไปด้วยอุปกรณ์เก่าสนิมเกาะ ที่ใครเห็นเป็นต้องอมยิ้ม ก็ไม่ได้ทำให้หนุ่มๆ กล้ามปูที่ตากแดดออกกำลังกายเหงื่อท่วมกระดากอายแต่อย่างใด เพราะกล้ามเนื้อในร่างกายรับรู้แค่ว่า 20 กิโลก็คือ 20 กิโล ถ้าได้ไปอย่าลืมไปทดสอบพละกำลังบนม้านั่งที่ก้อนน้ำหนักเป็นยางรถยนต์ดูซักเซ็ทนะ

40. ห้ามเดินตอน 8 โมงเช้ากับ 6 โมงเย็น
นักท่องเที่ยวทั้งหลาย ที่เพลิดเพลินจนต้องติดอยู่ข้างนอกตามเวลาดังกล่าว และรู้สึกราวกับตกเข้าไปอยู่ในมิติพิศวงที่ทุกคนหยุดเคลื่อนไหว จงอย่ากลัว เขาแค่ยืนทำความเคารพเพลงชาติ ที่บรรเลงวันละ 2 ครั้งเท่านั้น ถ้าคุณอยากเดินต่อก็ไม่ผิดกฏหมายหรอก แค่จะโดนมองด้วยสายตาเพชฌฆาตจนแทบจะตายคาที่เท่านั้นเอง

41. ปูผัดผงกะหรี่ที่อร่อยที่สุดในเอเชีย
เมื่อก้าวเข้าไปใน ร้านสมบูรณ์โภชนา สาขาสุรวงศ์ คุณจะได้เห็นปูผัดผงกะหรี่วางเด่นเป็นสง่าอยู่บนทุกโต๊ะ เนื้อปูสดๆ แน่นๆ ผัดคลุกเคล้าซอสผงกะหรี่สูตรเฉพาะ ที่หอมอร่อยจนเด็กเสิร์ฟแทบไม่ต้องล้างจาน เขาลือกันว่ามีลูกค้าประจำเจ้านึง ถึงกับต้องบินมาจากสิงคโปร์เดือนละครั้ง เพื่ออาหารจานนี้โดยเฉพาะ
เลขที่ 169/7-11 ถ. สุรวงศ์ สีลม โทรศัพท์ 02-2333104 begin_of_the_skype_highlighting 02-2333104 FREE end_of_the_skype_highlighting

42. เราบูชาฟุตบอลกัน…เป็นเรื่องเป็นราว
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
บนถนนพระราม 3 ซอย 30 มีวัดแห่งนึงชื่อ วัดปริวาส ที่มีเจ้าอาวาสเป็นแฟนบอลตัวยง จนถึงกับสั่งให้ช่างเอารูปปั้นเดวิด เบคแฮม มาติดไว้ข้างๆ รูปปั้นเทวดารอบพระอุโบสถ ในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี ค.ศ. 1998 เลยทีเดียว ถ้าท่านเอารูปปั้นวิคตอเรีย เบคแฮม ไปติดบนแท่นบูชา เมื่อไหร่เราจะรีบมาแจ้งให้ทราบเพิ่มเติม

43. พิพิธภัณฑ์สยองเกล้า
แน่ใจเหรอว่าคุณเห็นมาหมดแล้ว พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ ที่ โรงพยาบาลศิริราช นั้นเต็มไปด้วยของน่าขนลุกขนพองที่คุณอาจจะเคยได้ยิน แต่ไม่ค่อยมีใครเคยเห็นอยู่เต็มไปหมด ห้ามพลาด : ถุงอัณฑะขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 นิ้ว ของคนไข้โรคเท้าช้าง, ศพซีอุยฆาตกรกินตับเด็ก, เหยื่อโดนยิง, โดนรถชนและเหยื่อที่เสียชีวิตจากการใช้เครื่องจักร เราขอเตือนด้วยความปรารถนาดีว่าแฟนๆ ดิสนีย์แลนด์ไม่ควรมา
เลขที่ 2 ถ. พรานนก ศิริราช บางกอกน้อย โทรศัพท์ 02-419-7000 begin_of_the_skype_highlighting 02-419-7000 FREE end_of_the_skype_highlighting

44. เสื้อยืดที่เห็นแล้วต้องมองจนเหลียวหลัง
มีตั้งแต่สโลแกนเด็ดๆ, คำด่าแรงๆ ไปจนถึงคำคล้องจองที่ยิ่งอ่านยิ่งงงบนเสื้อยืดเท่ห์ๆ ทุกแบบทุกทรง หลายตัวอาจจะดูปัญญาอ่อนและไร้สาระ แต่นานๆ ทีคุณอาจจะไปเจอซักตัวที่เข้าท่า (น่าตบ) ก็ได้นะ

45. พระสงฆ์ที่ไหนทันสมัยที่สุด
หลายคนคิดว่า พระสงฆ์ คงเอาแต่สวดมนต์นั่งสมาธิทั้งวัน แต่พระเมืองไทยก้าวหน้ากว่านั้นเยอะ ถึงแม้ว่าท่านจะครองตนอยู่ในศีลในธรรม แต่คุณอาจจะได้เห็นบุรุษในผ้าเหลืองนั่งรถไฟใต้ดินเข้าเมือง เล่นไอโฟน หรือไม่ก็อัพเดทบล็อคตามร้านอินเตอร์เน็ทเหมือนกันนะ

46. ตำรวจไทยนั้นแท้จริงแล้วคือลูกเสือ
“จงเตรียมพร้อม” เป็นคติพจน์ของลูกเสือสามัญที่ใครๆ ก็ทราบ และตำรวจกรุงเทพฯ จำกันขึ้นใจ เดี๋ยวเราจะยกตัวอย่างให้ดู… ด้วยความที่เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องรถติดเป็น อันดับต้นๆ ของโลก ทำให้การนั่งอยู่ในรถติดๆ ตอน…ตอนคลอดลูกแล้วกัน กลายเป็นเรื่องเลวร้ายไม่ใช่น้อย ลูกเสือ เอ๊ย! ตำรวจในกรุงเทพฯ จึงต้องพกกรรไกรเอาไว้ตัดสายสะดือทารก และการคลอดลูกบนเบาะหลังรถนั้น เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คุณคิดอีก

47. ความเจ็บปวดที่น่าหลงใหลที่สุดในโลก
กิตติศัพท์ ของการนวดแผนไทย นั้นเลื่องลือไกลไปทั่วโลก ถึงแม้จะเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่รับรองได้ว่าพอกลับถึงห้องคุณจะหลับเป็นตาย และตื่นมาพร้อมกับความกระฉับกระเฉง ที่ เฮล์ทแลนด์ สปาชื่อดัง มีบริการนวดหลายขนานให้คุณได้ลอง ตั้งแต่นวดเท้าไปจนถึงนวดตัวด้วยน้ำมันเป็นเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากนวดเสร็จกล้ามเนื้อคุณจะถึงกับอึ้งทึ่งเสียวไปเลย

48. เฮ้ย! ไดโนเสาร์!!!
50 เหตุผล ความเป็นกรุงเทพฯ ในสายตาชาวต่างชาติ
อาจจะไม่ถึงกับเหมือนในหนังเรื่องจูราสสิคพาร์ค แต่ สวนลุมพินี หรือเซ็นทรัลพาร์คของคนกรุงเทพฯ นั้นมีสัตว์เลื้อยคลานตัวเขื่อง ที่คุณเห็นแล้วอาจจะถึงกับปัสสาวะเล็ดกันเลยทีเดียว ตัวเงินตัวทองที่โตเต็มที่นั้นยาว 2.7 เมตร ปกติเจ้าถิ่นจะชอบออกมาลุยโคลนและเดินทอดน่องริมน้ำ แต่บางทีก็อาจจะมีการเดินตัดหน้าข้ามมาลงในบึงใกล้ๆ บ้างเหมือนกัน แต่ว่าไม่ต้องกลัวหรอก เพราะส่วนใหญ่ก็ยาวแค่ 3 ฟุตเอง ส่วนใหญ่นะ…

49. เปิดกว้างสำหรับคนทุกเพศ
วิถีทางเพศของชาวกรุงเทพฯ นั้นเรียกได้ว่ายืด…ได้เหมือนหนังสติ๊ก “อ๋อ มันเป็นเกย์ไปแล้ว” คือ คำตอบที่ได้ยินกันบ่อยๆ เวลาถามถึงแฟนเก่า แต่ที่น่าทึ่ง ก็คือ ไม่มีใครสนใจ คนมีชื่อเสียงในบ้านเมืองหลายคน มีทั้งที่เป็นเกย์เต็มตัว, เป็นไบแล้วก็มีทั้งแต่งหญิง จะเกย์, ไม่เกย์, จะเป็นกะเทยแอ๊บแมน หรือกะเทยแต๋วแตก คนไทยคิดว่าใครจะเป็นเพศไหนมันก็เรื่องของเขา

50. สามารถกำหนดสีให้กับ…ทุกอย่าง
สี ช่วยกำหนดและแยกแยะทุกอย่างในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ความคิด โซน จนถึงขั้วการเมือง ที่จริงมีสีประจำวันด้วยนะ วันศุกร์คนจะชอบใส่สีฟ้า วันอังคารสีชมพู วันจันทร์สีเหลือง วันดีคืนดีสีต่างๆ ก็เข้ามามีบทบาททางการเมือง พอประชาชนขัดแย้งกันมากๆ เข้า แต่ละกลุ่ม แต่ละสีก็จะนัดหมายรวมตัวมาประท้วงกัน หลังจากเกิดเหตุวุ่นวายทางการเมืองในกรุงเทพฯ ก็มีคนแซวว่า น่าจะเปลี่ยนคำทักทายจาก “ทานข้าวรึยัง” เป็น “คุณอยู่สีอะไร” ไปเลยดีกว่า

10 ประเทศ ที่เป็นมิตรมากที่สุดในโลก

เผยรายชื่อ 10 ประเทศที่เป็นมิตรมากที่สุดในโลก โดยวิเคราะห์จากความน่าอยู่ ปลอดภัย สถิติการเกิดคดีอาชญากรรมต่ำ และการเป็นเจ้าบ้านที่ดี (ต้อนรับอบอุ่น ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว) เป็นต้น

 

ประเทศเยอรมนี
 
อันดับที่ 10 ประเทศเยอรมนี
จะว่าไปแล้วคนเยอรมันเองก็เป็นนักเดิน ทางท่องเที่ยวต่างประเทศตัวยง ในขณะที่ประเทศของเขาก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเยือนเกือบ 20 ล้านคนในแต่ละปี แม้ว่าภายนอกชาวเยอรมันอาจดูเหมือนเป็นคนเย็นชา แต่ถ้าได้รู้จักหรือทักทายกันแล้วล่ะก็ คุณจะรู้สึกได้ถึงความเป็นมิตรที่พวกเขามีให้อย่างเต็มเปี่ยม
ถึงแม้ว่าเยอรมนีจะมีสถิติการเกิดคดี อาชญากรรมค่อนข้างสูง (เพิ่มขึ้น 30% ในรอบ 7 ปี) แต่ถ้าเทียบกับสหรัฐอเมริกาก็ยังถือว่ามีสถิติการเกิดเหตุการณ์รุนแรงต่ำ กว่ามาก ที่สำคัญคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเรื่องภายในของคนในท้องถิ่น ไม่ใช่คดีทำร้ายร่างกายหรือคุกคามข่มขู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
ประเทศเนเธอร์แลนด์
อันดับที่ 9 ประเทศเนเธอร์แลนด์
ในแต่ละปีที่เมืองอัมสเตอร์ดัม จะมีบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเยือนประมาณ 7 ล้านคน และสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นปลื้มก็คือ ความเป็นมิตรและมีชีวิตชีวาของชาวดัทช์
แม้ว่าแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งของประ เทศเนเธอร์แลนด์ หรือแม้กระทั่งตามสถานีรถไฟ จะขึ้นชื่อเรื่อง “ล้วงกระเป๋า” นักท่องเที่ยว แต่สถิติการเกิดคดีอาชญากรรมของประเทศนี้ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ และจัดว่าเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
ประเทศสกอตแลนด์
อันดับที่ 8 สกอตแลนด์
ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางไปเยือนสกอตแลนด์ทั้งสิ้นจำนวน 16 ล้านคน ซึ่งบรรดานักท่องเที่ยวเหล่านี้จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง จากชาวสกอตแลนด์ที่มีมาตรฐานการศึกษาค่อนข้างสูง มีอารมณ์ขัน และยึดมั่นในวัฒนธรรมของตนเอง
อย่างไรก็ตาม หากนำสถิติการเกิดอาชญากรรมรุนแรงในสกอตแลนด์มาเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกา จะพบว่าที่นี่มีคดีอาชญากรรมสูงกว่า แต่มักเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบนอกแหล่งท่องเที่ยว จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยมากนัก แถมสถิติการฉกชิง วิ่งราว รูดทรัพย์นักท่องเที่ยวยังต่ำมากๆ อีกด้วย
ประเทศฟิจิ
อันดับที่ 7 ประเทศฟิจิ
ฟิจิ เป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งนำรายได้หลักเข้าสู่ประเทศมากกว่า 1.4 หมื่นล้านบาทในแต่ละปี ด้วยเหตุนี้ ประเทศที่เต็มไปด้วยเกาะมากกว่า 300 แห่งอย่างฟิจิ จึงยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน
นอกจากนี้ ชาวฟิจิยังเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่นและยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ ยินดีช่วยเหลือทุกครั้งที่นักท่องเที่ยวร้องขอ ที่สำคัญสถิติการเกิดอาชญากรรมยังอยู่ในระดับต่ำและลดลงอย่างต่อเนื่อง น่าเสียดายที่หลังจากรัฐบาลทหารเข้าปกครองประเทศ เมื่อปี ค.ศ. 2007 คะแนนความเป็นมิตรของประเทศฟิจิก็ลดต่ำลง แต่นับว่ายังโชคดีที่ปัจจุบันนี้ธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศฟิจิยังคงแข็ง แกร่งเหมือนเดิม
ประเทศอิตาลี
อันดับที่ 6 ประเทศอิตาลี
อิตาลี ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตและอยู่ในอันดับท็อปไฟว์ของประเทศที่มีนักท่อง เที่ยวเดินทางไปเยือนมากที่สุดในโลก ประเทศนี้มีประชากรราว 58 ล้านคน แต่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเยือนมากถึงปีละเกือบ 40 ล้านคนเลยทีเดียว
เมื่อใดก็ตามที่นักท่องเที่ยวสนใจ ศึกษาวัฒนธรรมของชาวอิตาลี พวกเขาก็พร้อมที่จะสอนทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการทำอาหารหรือสร้างสรรค์ผลงานทางด้านศิลปะ แม้ว่าประเทศนี้จะขึ้นชื่อเรื่องล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว แต่ถ้าหากเราเตรียมการป้องกันเป็นอย่างดีก็แทบไม่มีอะไรให้กังวลอีก
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อันดับที่ 5 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เป็นที่รู้กันว่าชาวสวิสขึ้นชื่อใน เรื่องการทุ่มเทและตั้งใจทำงานอย่างหนัก อีกทั้งยังซื่อสัตย์เชื่อถือได้ แต่สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจก็คือ ความเป็นมิตรของผู้คน ทั้งยังเอาใจใส่ดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ชาวสวิสจะให้ข้อมูลทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ และยินดีให้ความช่วยเหลือเมื่อถูกร้องขอ
ด้านความปลอดภัยถือว่าอยู่ในระดับสูง เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วโดยส่วนใหญ่ สถิติการเกิดคดีอาชญากรรมก็ต่ำกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 50% ถึงแม้ว่าจะมีขโมยมากกว่า แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนหนึ่งพบว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศนี้ มีความปลอดภัยมากกว่าการเดินเล่นแถวบ้านตนเองด้วยซ้ำ
ประเทศออสเตรเลีย
อันดับที่ 4 ประเทศออสเตรเลีย
ออสเตรเลีย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 5 ล้านคนเดินทางเข้าไปเยือนในแต่ละปี ส่งผลให้มีรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวปีละเกือบสองแสนล้านบาท
สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีอะไรให้นักท่องเที่ยวกังวลมากนัก เพราะมีสถิติการเกิดอาชญากรรมต่ำ ยกเว้นปัญหาเรื่องการ “ขโมยรถ” เนื่องจากมีสถิติรถหายสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ถึง 2 เท่า ซึ่งถ้าหากใครมีแผนเช่ารถขับกินลมชมวิวที่ออสเตรเลียแล้วล่ะก็คงต้องคอยดูแล รถให้ดีๆ
ประเทศแคนาดา
อันดับ ที่ 3 ประเทศแคนาดา
แคนาดา เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มักอยู่ในอันดับต้นๆ ของการจัดอันดับ (ในด้านที่ดี) ไม่ว่าจะเป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก เมืองปลอดภัยที่สุดในโลก หรือแม้กระทั่งเมืองที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก เป็นต้น
สาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการที่แคนาดามีสถิติการเกิดอาชญากรรมรุนแรงในระดับที่ต่ำ มาก ทั้งยังยินดีเปิดบ้านต้อนรับคนต่างชาติไม่ว่าจะในฐานะนักท่องเที่ยวหรือผู้ อยู่อาศัย จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมแคนาดาจึงอุดมไปด้วยวัฒนธรรมอันหลากหลาย ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อนักท่อง เที่ยวมากที่สุดในโลก
ประเทศนิวซีแลนด์
อันดับที่ 2 ประเทศนิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่มีประชากรเพียง 4 ล้านคน ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมธรรมชาติอัน บริสุทธิ์และสวยงามของประเทศนี้ราว 2 ล้านคน ส่งผลให้มีรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวสูงถึงปีละ 6.7 หมื่นล้านบาท
พลเมืองของประเทศนี้ขึ้นชื่อในเรื่อง ของความซื่อสัตย์และไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ถึงขนาดไม่ล็อคประตูบ้าน และมีมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยภายในองค์กรที่ไม่ค่อยเข้มงวดมากนัก แม้ว่าปัจจุบัน ทางการนิวซีแลนด์จะกระตุ้นให้เพิ่มความระมัดระวังและรักษาความปลอดภัยให้ เข้มงวดขึ้น แต่สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว พวกเขายังคงน่ารักและเป็นมิตรกับทุกคนเหมือนเช่นเคย
ประเทศไอร์แลนด์
อันดับที่ 1 ประเทศไอร์แลนด์
โลนลี่ แพลนเน็ต ยกย่องให้ไอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีความเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ประเทศนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดใน ยุโรป ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเยือนมากกว่า 6 ล้านคน ในขณะที่มีประชากรเพียง 4 ล้านคนเท่านั้น
แม้ว่าผู้คนในประเทศนี้จะมีอดีตที่แสนเจ็บปวดจากการเข่นฆ่าและภัยสงคราม แต่ในปัจจุบันสถิติอาชญากรรมของไอร์แลนด์อยู่ในระดับที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ (ต่ำกว่าสหรัฐอเมริกา 75%) จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่แสนสงบสุข ผู้คนนิยมออกมาสังสรรค์กันตามผับเพื่อแชร์ความทุกข์ ร่วมสุข และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ที่สำคัญชาวไอร์แลนด์ยังต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง เสมือนเพื่อนอีกด้วย


 

เป็ดปักกิ่ง

  
   เป็ดปักกิ่ง (อังกฤษ: Peking Duck, ภาษาจีน: 北京烤鸭, พินอิน: Běijīng kǎo yā) คืออาหารจีนเลิศรสที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมนูประจำชาติจีน เสิร์ฟในรูปแผ่นหนังบางกรอบ ที่มาพร้อมแผ่นแป้งบางสำหรับห่อ ตามด้วยซอสหวานและเครื่องเคียงอย่าง ต้นหอม โดยจะใช้เฉพาะส่วนหัวที่เป็นสีขาวนำมาซอยเป็นเส้น คู่กับแตงกวาปอกเปลือกหั่นเป็นแท่ง หนังเป็ดจะต้องแล่ออกเป็นแผ่นบางตอนร้อนๆ ยิ่งหากลงจากเตาใหม่ๆ จะช่วยให้แล่ง่ายขึ้นและได้เป็นชิ้นสวยงาม สูตรต้นตำรับของปักกิ่งจะแล่หนังติดเนื้อมาด้วย ในขณะที่ประเทศไทยนิยมแล่เฉพาะหนัง ส่วนเนื้อเป็ดนำไปปรุงรสตามชอบ เช่น ผัดกระเทียม เมี่ยงเป็ด เป็นต้น
สองภัตตาคารในกรุงปักกิ่งที่โด่งดังขึ้นชื่อเรื่องเป็ดปักกิ่ง คือ เฉวียนจวี้เต๋อ (全聚德 พินอิน: Quánjùdé) และ เปี้ยนอี้ฟาง (便宜坊 พินอิน:Biànyífānɡ) ที่เป็นเจ้าแรกต้นตำรับของกรุงปักกิ่ง

  การเลี้ยงเป็ด

เป็ดที่จะนำมาทำเมนูเป็ดปักกิ่งนั้น จะต้องเป็นเป็ดที่ได้รับการเลี้ยงดูพิเศษ ด้วยกรรมวิธีเฉพาะที่เรียกว่า "เถียนยา" (北京填鴨, พินอิน: Běijīng tián yā) ซึ่งคำนี้มีความหมายว่า "บังคับให้กินอาหาร" หรือขุนให้อ้วนนั่นเอง ในช่วง 45 วันแรก ลูกเป็ดจะถูกปล่อยให้ใช้ชีวิตอิสระเต็มที่ หลังจากนั้นจะถูกจับป้อนอาหาร บังคับให้กินวันละ 4 มื้อ นานติดต่อกัน 15-20 วัน จนกระทั่งน้ำหนักตัวขึ้นสูงถึง 5-7 กิโลกรัม
 

  การปรุง

 
เป็ดที่ถูกขุนจนตัวอ้วนพีจะถูกนำมาผ่าท้อง ควักเอาเครื่องในออก และล้างให้สะอาดก่อนอัดอากาศเข้าไปข้างใน เพื่อให้ส่วนที่เป็นหนังแยกออก จากนั้นนำน้ำเดือดมาราดบริเวณหนังให้ทั่วตัว เพื่อให้ผิวหนังตึง ตามด้วยการทาผิวด้านนอกด้วยน้ำเชื่อม ตัวเป็ดจะกลายเป็นสีแดงคล้ายย้อมสี จะต้องเทน้ำเดือดเข้าไปในท้องเป็ดอีกรอบ ก่อนนำขึ้นแขวนตะขอผึ่งลมจนแห้ง
กรรมวิธีในการย่างแบ่งได้สามวิธีด้วยกัน ในอดีตจะใช้วิธี "เสียบไม้ย่าง" โดยใช้ไม้ลักษณะคล้ายสามง่าม เสียบแทงตัวเป็ดและนำขึ้นย่างไฟ จะต้องคอยพลิกเป็ดกลับไปมาคล้ายการย่างหมูหัน ซึ่งทำให้เสียเวลามาก เนื้อเป็ดที่ได้จะไม่หอมอร่อยเท่าที่ควร ปัจจุบันจึงเลิกใช้วิธีนี้แล้ว
วิธีที่สองคือ "แขวนย่าง" โดยจะนำไม้จากต้นผลไม้ต่างๆ เช่น พุทรา ท้อ หรือสาลี่ นำไม้มาเหลาให้ได้ขนาดเพื่อนำมาทำเป็นฟืนสำหรับย่างเป็ด อุณหภูมิในการย่างจะสูงถึง 270°C (525 °F) ย่างนาน 30–40 นาที เป็ดที่ย่างโดยกรรมวิธีนี้จะมีรสชาติพิเศษ หนังจะกรอบเกรียม เนื้อในนุ่ม สุกแล้วสีผิวจะออกแดงพุทราและเป็นมันวาว หอมอบอวลด้วยกลิ่นจากต้นผลไม้
วิธีที่สามคือ "อบในเตาปิด" ตัวเป็ดจะไม่สัมผัสกับเปลวไฟโดยตรง แต่จะใช้การถ่ายเทความร้อนผ่านผนังเตา ในระหว่างการย่าง พ่อครัวจะไม่เปิดประตูเตาเลยจนกระทั่งตัวเป็ดสุก ซึ่งกรรมวิธีนี้เป็นวิธีที่ร้านดังเก่าแก่อย่างเปี้ยนอี้ฟางใช้มาตั้งแต่ดั้งเดิม

ประวัติความเป็นมาของถุงเท้า Hops




แต่ละปี, หญิงสาวหรือคนที่แต่งตัวประหลาด fifties น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่นิยมมากที่สุดฮาโลวีนเครื่องแต่งกาย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมหลายคนลักษณะเหมือนพวกเขามาจากทศวรรษ 1950 และอยู่ในทางของพวกเขาเพื่อปฮอปถุงเท้า ในขณะที่เราทุกคนสามารถตั้งชื่อเครื่องแต่งกายทั่วไปสำหรับเต้นเหล่านี้ว่าพวกเราหลายคนจริงๆรู้เกี่ยวกับประวัติของถุงเท้าฮอปส์?


สิ่งแรกที่หนึ่งควรรู้เกี่ยวกับถุงเท้า hops เป็นที่มาของชื่อ เมื่อเต้นเหล่านี้เป็นที่นิยมครั้งแรกในทศวรรษ 1950 ส่วนใหญ่เต้นรำของโรงเรียนได้จัดขึ้นในโรงเรียนโรงยิม พื้นห้องออกกำลังกายมีไม้มันปลาบซึ่งเป็น scuffed ได้อย่างง่ายดายด้วยรองเท้า, นักเต้นระบำเพื่อให้ได้ต้องถอดรองเท้าก่อนเต้นออกจากพวกเขาในเวลาเพียงถุงเท้าของพวกเขา

Fifties Fashion
ถึงแม้ไม่ได้สวมใส่รองเท้าเต้นในขณะที่รองเท้าอานมีการเลือกรองเท้าให้สวมใส่เต้น กับรองเท้าเหล่านี้สาวสวมกระโปรงสุนัขพูเดลในขณะที่ผู้ชายสวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน และเป็นชื่อแนะนำ, นักเต้นยังสวมถุงเท้าข้อเท้าสำหรับเต้น

ป้องกันไว้ก่อนหรือระเบียบนี้ทำเฉพาะวัยรุ่นสนุกเต้นเหล่านี้มากขึ้น ส่วนใหญ่รู้สึกว่าการถอดรองเท้าของพวกเขาได้กระทำการกบฏ นี้เป็นเพียงหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงจำนวนมากที่จะจัดขึ้นในช่วงทศวรรษนี้ว่าถุงเท้า hops มีบทบาทสำคัญสิ่งต่อไปนี้

หนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการแนะนำเพลงร็อคแอนด์โรล ในช่วงต้นทศวรรษ 1950, การเลือกเพลงสำหรับเต้นรำเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจากเพลงอนุรักษ์นิยมอันเนื่องมาจากเพลงของวงสวิง 1940 แต่ในช่วงกลาง fifties, ใครบางคนโดยเอลวิสชื่อของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่

ร็อคแอนด์โรลได้แนะนำให้กบฏ shoeless ของทศวรรษ 1950 โดย Elvis Presley ควงสะโพกของเขาทำหน้านิ่วคิ้วมากที่สุดของคนรุ่นเก่าทั้งเขาและเพลงของเขา และถ้าเขาไม่ได้ไม่ดีพอเขาแรงบันดาลใจจากการจลาจลของศิลปินหน้าใหม่อื่น ๆ อีกมากมายรวมทั้งคาร์ลที่เพิ่ม Parkins R & B ผสม

ด้วยชนิดใหม่ของเพลงมาชนิดใหม่ของการเต้นรำ เต้นเหล่านี้รวม Cha Cha, Twist, เดินเล่น, มือพูดที่หลอกลวงและ Bop ในช่วงเวลานี้มันเป็นเรื่องปกติสำหรับเต้นรำเฉพาะที่ถูกนำไปพร้อมกับเพลงยอดนิยมที่เฉพาะเจาะจง

ขณะที่เราสามารถมองเห็นถุงเท้า hops กำลังชุดที่ดีกว่า มันเป็นผ่านการเต้นรำเหล่านี้ที่หินและม้วนเริ่มได้รับความนิยมศิลปะการฟ้อนรำแบบใหม่ถูกสร้างขึ้นและบรรทัดฐานทางสังคมของเวลาที่เสียลง เราเป็นหนี้มากทุกคนที่ช่วยผลักดันให้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้พร้อม

สาเหตุและวิธีแก้ริมฝีปากแห้ง


ริมฝีปาก

สาเหตุที่ริมฝีปากแห้ง หรือแตกง่ายกว่าบริเวณอื่น เนื่องจากบริเวณริฝีปากไม่มีต่อมไขมัน เพื่อเคลือบป้องกันผิวไม่ให้น้ำระเหยออกไปเหมือนส่วนอื่นของผิวหนัง และเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับอาหารหรือเครื่องดื่ม รวมทั้งสารเคมีต่างๆ
สาเหตุและวิธีแก้ริมฝีปากแห้ง
  1. ดื่มน้ำน้อยเกินไป ถ้าคุณดื่มน้ำน้อยผิวทั่วร่างกายรวมทั้งริมฝีปากก็จะแห้ง เพราะขาดน้ำ วิธีแก้ จึงควรดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยก็วันและ 8 แก้ว
  2. การเลียริมฝีปากบ่อยๆ ในช่วงแรกอาจรู้สึกว่าริมฝีปากชุ่มชื่น แต่สักพักริมฝีปากจะแห้ง เนื่องจากน้ำระเหยไปและเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ช่วยย่อยอาหารในน้ำลายจะทำให้ริม ฝีปากแห้งมากขึ้น วิธีแก้ จึงไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อย
  3. แสงแดดและรังสี การถูกแสงแดดเป็นเวลานานต่อเนื่องกัน ทำให้ริมฝีปากสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต(UV) หรือการฉายรังสีจากการรักษา ซึ่งเป็นตัวทำลายความยืดหยุ่นของเซลล์ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดรอยเหี่ยวย่น วิธีแก้ ควรหลีกเลี่ยงในช่วงที่มีแสงแดดจัด หรือ กางร่ม ใส่หมวก ใช้ผ้าคลุม ในกรณีที่ต้องเผชิญกับแสงแดด
  4. สภาพอากาศ อากาศร้อนและมีลมแรง กับ อากาศเย็นและแห้ง มีผลทำให้ริมฝีปากแห้งหรือแตกเป็นขุยมากขึ้น วิธีแก้ ควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ หรือเพิ่มความชื้นบริเวณรอบตัว โดยวางน้ำสักแก้วไว้ใกล้ๆ เครื่องปรับอากาศ
  5. แพ้สารบางอย่าง เป็นไปได้ว่าสารบางอย่างในลิปสติกหรือเครื่องสำอาง เช่นสารประกอบที่ทำให้เกิดปัญหาที่สุดคือ สี กลิ่น น้ำหอม ลาโนลิน (สารที่ให้ความชุมชื้น) และสารกันบูด ทำให้คุณเกิดอาการแพ้ วิธีแก้ คุณควรหาให้เจอว่าคุณแพ้อะไร แล้วเลือกเครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพริมฝีปากของคุณ
  6. การขาดวิตามิน คนที่ขาดวิตามินบี ริมฝีปากจะแตกง่ายกว่าคนทั่วไป เพราะวิตามินบีมีความสำคัญต่อผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ วิธีแก้ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้น ข้าวกล้อง ตับ ผักใบเขียว เมล็ดอัลมอนด์ ถั่วลิสง หรือ มะม่วงหิมพานต์ ซี่งมีวิตามินบีสูง
  7. อาการร้อนใน เนื่องจากอาการร้อนในจะทำให้น้ำในร่างกานสูญเสียมากขึ้นรวมทั้งริมฝีปากด้วย วิธีแก้ ควรหลีกเลื่ยงอาหารเค็มจัดและอาหารที่มีกรดหรือมีรสเปรื้ยว รวมทั้งเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ดื่มน้ำตะไคร้หอม เนื่องจากมีสรรพคุณแก้ร้อนในกระหายน้ำ ต้มจิบแทนน้ำ ช่วยแก้ริมฝีปากแห้งแตกจากการร้อนในได้
วิธีแก้เมื่อริมฝีปากแห้งแตกหรือลอกเป็นขุย
  • ดืมน้ำสะอาดให้มากๆ หรือจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ
  • หาก ปากแห้งมากแตกจนลอกเป็นขุย ให้ใช้น้ำอุ่นผสมเกลือป่นเล็กน้อยใช้สำลีหรือทิชชู ชุบให้เปียกพอหมาดๆ แล้วใช้ปากคาบทิ้งไว้ 3-5 นาที หรือเช็ดไล้เบาๆ ไปบนริมฝีปาก จะช่วยให้ขุยต่างๆ หลุดลอกออกไปได้
  • มั่นใช้ขี้ผึ้ง แทนลิปกลอสหรือลิปมัน ทาบนริมฝีปากเป็นประจำ
  • ใช้ น้ำมันมะกอกทาบางๆ ที่ริมฝีปากจะทำหน้าที่เสมือนแผ่นฟิล์มธรรมชาติช่วยปกป้องผิวไม่ให้สูญเสีย น้ำหล่อเลี้ยงไป บรรเทาอาการแห้งตึงและเจ็บริมฝีปากจะรู้สึกสบายและนุ่มขึ้น วิตามินอี วิตามินเอในน้ำมันมะกอกยังช่วยป้องกันการทำลายจากแสงแดด และอนุมูลอิสระได้ดีอีกด้วย
  • ทาน้ำผึ้งบางๆจะช่วยคืนความชุ่ม ชื่นนุ่มนวลให้ริมฝีปากสารแอนติออกซิแดนท์ในน้ำผึ้ง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้อุดมด้วยสารฆ่าเชื้อและป้องกันการติดเชื้อได้ ในกรณีที่ปากแตกมากช่วยให้ไม่เกิดการอักเสบ และช่วยสมานแผลให้หายเร็ว