วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ระบบปฏิบัติการ Windows 8 มิติใหม่ของการใช้คอมพ์ ☺

ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่ผ่านพ้นช่วงเวลาของการใช้ระบบปฏิบัติการของวินโดวส์มาหลายต่อหลายตัว จะเรียกว่าตั้งแต่แรกเริ่มก็ได้ เชื่อว่าหลายคนอาจจะเห็นด้วยว่า ที่ผ่านมารูปร่างหน้าตาของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ของไมโครซอฟท์นั้น ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงชนิด "ใหญ่โต" อะไรมากมาย ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มเติมฟังก์ชั่นการใช้งานให้ง่ายขึ้น หน้าตาจะเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย ประสิทธิภาพในการใช้งานก็แล้วแต่ว่า เป็นชีวิตขาขึ้นหรือขาลงของวินโดวส์นั้นๆ



แต่จากการได้สัมผัสกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่ล่าสุดของไมโครซอฟท์กับ "วินโดวส์ 8" ต้องใช้คำพูดของผู้บริหารไมโครซอฟท์มาอ้างอิงที่ว่า มันเป็น "มิติใหม่" ของการใช้งานคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว

วินโดวส์ 8 เปิดตัวอย่างเป็นทางการทั่วโลกไปเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ในระดับของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีการเปิดตัวกันที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีคุณเทรซี เฟลโลว์ส ประธานไมโครซอฟท์ ประจำเอเชีย-แปซิฟิก และคุณอัลวาโร เซลิส รองประธานฝ่ายขายการตลาด ของไมโครซอฟท์ เอเชีย-แปซิฟิก มาร่วมเปิดมิติใหม่ของวินโดวส์ครั้งนี้
คุณเฟลโลว์สกล่าวว่า ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 เป็นการปรับภาพลักษณ์ใหม่ของวินโดวส์สู่สายตาชาวโลก คุณสามารถทำอะไรก็ได้จะใช้เพื่อการบริโภคหรือจะใช้สร้างสรรค์ผลงาน จะทำงานหรือเล่นวินโดวส์ 8 จะให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์

ด้านคุณเซลิสให้สัมภาษณ์ว่า ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 นั้น ใช้เวลานานหลายปีในการพัฒนา ซึ่งจะเป็นมิติใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เล่นและความบันเทิงที่สามารถเข้ากันได้โดยไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาเราต้องเลือกว่า อุปกรณ์ใช้งานต้องเป็นแบบไหน แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง สามารถเป็นได้ทั้งคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต มีแอพพลิเคชั่นให้เลือกใช้งานอยู่บน "วินโดวส์ สโตร์" ซึ่งแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ได้รับการพัฒนาโดยนักพัฒนาที่มีการเปิดกว้าง ดังนั้น เรื่องของราคาก็จะขึ้นอยู่นักพัฒนาว่าต้องการจะคิดเงินหรือไม่ หรือถ้าคิดจะคิดเท่าไหร่ก็แล้วแต่ โดยปัจจุบันมีนักพัฒนาทั่วโลกอยู่ราว 400,000 คน เฉพาะในเอเชีย-แปซิฟิกมีอยู่ราว 30,000 คน แต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่สนใจจะมาพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้กับวินโดวส์ 8 ซึ่งแน่นอนว่า ไมโครซอฟท์เองได้ทำงานร่วมกับนักพัฒนาท้องถิ่นเพื่อให้ได้แอพพลิเคชั่นที่ตอบสนองความต้องการใช้งานอย่างแท้จริงของคนในพื้นที่

ตอนนี้ แอพพลิเคชั่นของไทยที่มีแล้วก็ได้แก่ ThaiRath, Major Movie Plus, GTH Cinema, Bangkok Bank และ Ensogo โดยหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว มีเครื่องคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตกว่า 1,000 รุ่น ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 พร้อมกันนี้ ก็ยังมีการเปิดตัวร้านค้าในอีก 17 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งในประเทศไทยด้วย

ด้านคุณพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า วินโดวส์ 8 ได้รับการออกแบบเพื่อโลกในวันนี้ที่ไม่มีเส้นคั่นระหว่างการใช้งานไอที เพื่อการทำงานและเพื่อความเพลิดเพลินที่บ้านอีกต่อไปโดย วินโดวส์ 8 จะมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและลื่นไหลที่สำคัญเราเชื่อมั่นว่า วินโดวส์ 8 จะเป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีรวมถึงช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงเทคโนโลยีที่ดีได้ตามพันธกิจหลักของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย We Make 70 Million Lives
สำหรับวินโดวส์ 8 จะมีวางจำหน่ายใน 2 รุ่น คือ รุ่น Windows 8 และ Windows 8 Pro ตามร้านค้าปลีก และที่เปิดตัวในเวลาเดียวกันได้แก่ Windows RT ที่ถูกดีไซน์สำหรับใช้กับซีพียูแบบ ARM ที่ต้องการคุณสมบัติในเรื่องความบางและเบาและมีอายุการทำงานของแบตเตอรี่ที่ยาวนาน

สำหรับผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP, Windows Vista และ Windows 7 บนเครื่องพีซีอยู่แล้วสามารถอัพเกรดเป็น Windows 8 Pro ได้ที่ราคา 39.99 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 1,250 บาท) ส่วนผู้บริโภคที่ซื้อ Windows 7 ระหว่างวันที่ 2 มิถุนายน 2555 ถึง 31 มกราคม 2556 สามารถอัพเกรดเป็น Windows 8 Pro ได้ในราคา 14.99 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 499 บาท)

การเกิดขึ้นของระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8 น่าจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในแวดวงผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เริ่มได้เห็นการปรับตัวเข้าสู่ยุคของคอมพิวเตอร์ "ไฮบริด" กันมากขึ้น คือนอกจากการเป็นโน้ตบุ๊กแล้วก็จะต้องสามารถทำงานเป็นแท็บเล็ตได้ด้วย (ส่วนใหญ่) เพราะวินโดวส์ 8 เอง มีจุดเด่นอีกอย่างคือเรื่องของระบบหน้าจอสัมผัส ในขณะที่เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเองก็เริ่มเห็นเป็นเครื่องที่เป็นหน้าจอสัมผัสกันมากขึ้น

ถือว่า วินโดวส์ 8 ออกมาช่วยสร้างสีสันให้แก่แวดวงคอมพิวเตอร์ได้ไม่น้อย ต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องของระบบปฏิบัติการ "วินโดวส์ โฟน 8" ที่ไว้ใช้สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และสมาร์ทโฟน ซึ่งไมโครซอฟท์คาดหวังไว้ไม่น้อยเช่นกันว่าจะสามารถมาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปจาก 2 เจ้าใหญ่ ส่วนจะได้มากหรือน้อย ก็ต้องขึ้นอยู่ความพึงพอใจของผู้บริโภค ว่าจะชอบกันหรือเปล่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น